ภูเก็ตสนธิกำลังตัดโค่นต้นยางพารารุกพื้นที่สวนป่าบางขนุน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ที่บริเวณสวนป่าบางขนุน หมู่ที่ 5 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการดำเนินการตามมาตรา 25 (3) แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ. ศ. 2507 ในการเข้ารื้อถอนผลอาสิน (ยางพาราและอื่นๆ) ซึ่งมีการปลูกไว้ในพื้นที่สวนป่าบางขนุน จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 122 ไร่เศษโดยมีการบูรณาการกำลัง ประมาณ 100 นาย
ทั้งในส่วนของฝ่ายปกครองอำเภอถลาง ทัพเรือภาคที่ 3 ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต กองบัญชาการควบคุมมณฑล 41 ส่วนแยกจังหวัดภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรอำเภอถลาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู หน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เลื่อยยนต์ มีดพร้า และขวาน ทำการตัดโค่นต้นยางพาราขนาดต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งสามารถกรีดได้แล้ว และยังมีการตัดโค่นทำลายได้ยืนต้น เช่น สะตอ ต้นหมาก เป็นต้น ด้วย โดยระหว่างนั้นได้มีนางอำภา ทองเทพ อายุ 57 ปี ได้มาแสดงตนเป็นผู้ครอบครองพื้นที่บางส่วน และนำหนังสือกระทรวงมหาดไทยและหนังสือของจังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ให้ผ่อนผันให้ราษฎรได้อยู่อาศัยทำกินในที่ดินที่อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ และป่าไม้อื่นๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย พร้อมยอมรับว่าที่ดินแปลงที่ครอบครองอยู่นั้นเป็นการซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่งเมื่อ10 ปีที่ผ่านมา และได้ทำกินมาโดยตลอด
นายเกษม สุขวารี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้าดำเนินการรื้อถอนอาสิน (ยางพารา) ในครั้งนี้ ว่า ตามนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนได้ให้ความสำคัญกับการเร่งปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า
โดยมีแผนงาน/โครงการสำคัญ 10 ข้อ และข้อที่ 4 โครงการแก้ไขปัญหาราษฎรบุกรุกที่ดินป่าไม้ แก้ไขพื้นที่ทับซ้อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมป่าไม้ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและมีการปลูกพืชผลอาสิน โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ทุกแปลง
“การเข้ารื้อถอนพืชผลอาสินที่บุกรุกพื้นที่สวนป่าบางขนุน เป็นพื้นที่ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก 1 (ถลาง) ร่วมกับสวนป่าบางขนุนได้ตรวจยึดจับกุมและแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธรถลาง เมื่อวันที่ 16/3/2559 จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 116 ไร่เศษ และ 6 ไร่เศษ รวมเนื้อที่ 122 ไร่เศษ และได้จัดทำแผนสนธิกำลังดำเนินการตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ. ศ. 2507 รวมทั้งดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
แต่เมื่อครบระยะเวลาตามกำหนดไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด จึงสนธิกำลังเข้าทำการรื้อถอนดังกล่าว ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ จะได้เสนอกรมป่าไม้เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนสู่ธรรมชาติดังเดิม” นายเกษม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น