จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ชมรมชาวเหนือภูเก็ต-อันดามัน จัดแข่งโบว์ลิ่งการกุศล




เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2557 ที่ซี เอส โบว์ล ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการแข่งขันโบว์ลิ่งเพื่อการกุศล ซึ่งทางชมรมชาวเหนือภูเก็ตอันดามัน จัดขึ้น เพื่อหารายได้สนับสนุนช่วยเหลือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม 


โดยมีนางณัฐพร ผาณิตพิเชษฐวงศ์ ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผบก.ภ.จว.พังงา นายเกรียงศักดิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายจตุพร มินทราเวช ประธานชมรมชาวเหนือภูเก็ตอันดามัน ตลอดจนสมาชิกชมรมชาวเหนือภูเก็ตอันดามัน และผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งมีจำนวนกว่า 80 ทีม เข้าร่วม 


นายจตุพร มินทราเวช ประธานชมรมชาวเหนือภูเก็ตอันดามัน กล่าวว่า ชมรมชาวเหนือภูเก็ตอันดามันเป็นองค์กรที่รวมตัวกันของพี่น้องชาวเหนือที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียง เพื่อไว้พบปะสังสรรค์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวล้านนา และช่วยเหลือกิจกรรมอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมภูเก็ต และสังคมส่วนรวม 


ตลอดระยะเวลาของการก่อตั้งชมรมฯ รวม 15 ปี ได้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมมากมาย ไม่ว่าจะด้านการศึกษา ซึ่งได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง และทางด้านศาสนาก็ได้จัดให้มีงานบุญประเพณีตานก๋วยสลากซึ่งเป็นประเพณีอันเก่าแก่ที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยได้นำจัตุปัจจัยสมทบในการทำนุบำรุงศาสนาเป็นประจำทุกปี 


นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอีกมากมาย ซึ่งการจัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลนั้น เพื่อนำรายได้สนับสนุนกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมภูเก็ต และสังคมส่วนรวม และนำไปสมทบมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยจะนำไปมอบในงานพบปะสังสรรค์ประจำปีของชมรมฯ ภายในงานประจำปีของชมรมฯ ภายใต้ชื่องาน กิ๋นหอมต๋อมม่วน ที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2557 นี้ต่อไป 


ด้านนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ถือเป็นกิจกรรมที่เป็นการทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นสู่สังคมส่วนรวมและสาธารณะ อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้กับสมาชิกในชมรมรวมไปถึงผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง และเครือข่ายต่าง ๆ ให้เกิดความปรองดองสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยการทำงานจำเป็นต้องอาศัยการสร้างสัมพันธไมตรีต่อกัน 


จึงจะส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิด ด้วยแนวทาง 4 ส. คือ สนุก สานสัมพันธ์ สร้างความสามัคคีและ สังคมส่วนรวม ซึ่งหมายถึงการกระจุกเพื่อกระจาย หรือการรวมพลังเพื่อกระจายคุณประโยชน์ออกสู่สังคมซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญของการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมอีกด้วย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น