จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

“โกมล ดุมลักษณ์” ควบ 2 เก้าอี้



เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 54 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมคัดเลือกกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ตไปดำรงตำแหน่งกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
หลังจากนั้นก็ได้มอบหมายให้นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ตทำหน้าที่ในการเป็นประธานจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ตไปดำรง ตำแหน่งกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยแทน โดยมีนายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายวิโรจน์ สุวรรณวงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ จ่าจังหวัดภูเก็ต อิหม่าม และสัปตบุรุษประจำมัสยิดต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต จำนวน 51 มัสยิด ตลอดจนประชาชนที่สนใจมารอลุ้นผลการนับคะแนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้มีการแจกใบปลิวโจมตีผู้สมัครและมีผู้ขับรถยนต์กระบะติดแผ่นป้ายสรุปใจความว่า “ผู้รับสินบนและผู้ให้สินบนเป็นบาป” เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าก่อนการเลือกตั้งได้มีการล็อบบี้กันอย่างหนัก
การจัดการเลือกตั้งดังกล่าวด้วยกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่ากรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 และสั่งการให้จังหวัดภูเก็ตดำเนินการคัดเลือก ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ตาม พ.ร.บ.องค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 และกฎกระทรวง พ.ศ.2542 โดยให้จัดการประชุมอิหม่ามประจำมัสยิดเพื่อคัดเลือกกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต แทนตำแหน่งที่ครบวาระ เสร็จแล้วให้ดำเนินการคัดเลือก ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รองประธาน เลาขานุการ และตำแหน่งอื่นๆตามความจำเป็นและเหมาะสม เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วก็ให้มีการประชุมกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อคัดเลือกผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีมัสยิดที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 51 มัสยิด ซึ่งตามประกาศของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กำหนดให้จังหวัดที่มีมัสยิดตั้งแต่ 51 – 100 มัสยิด ให้มีกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 25 คน ซึ่งที่ประชุมมีมติว่าให้มีกรรมการ 25 คน โดยมีผู้เสนอชื่อเพื่อรับเลือกตั้งเป็นกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต จำนวน 52 คน และมีอิหม่ามประจำมัสยิดที่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ 48 คน
จากนั้นได้เปิดให้มีการลงคะแนน โดยให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนแบบลับ เพื่อเลือกตั้งให้ได้ตามจำนวนของคณะกรรมการ คือ 25 คน และหลังจากได้คณะกรรมการฯ จำนวน 25 คนแล้ว ได้มีการเสนอชื่อผู้เป็นประธานกรรมการฯ 2 คน คือ นายโกมล ดุมลักษณ์ กับนายบำรุง สำเภารัตน์ ผลจากการเลือกตั้งปรากฏว่านายโกมล ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 16 ต่อ 9 คะแนน
ขณะเดียวกันนายโกมล ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ตไปดำรงตำแหน่งกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยชนะคู่แข่งคือ นายมาโนช พันธ์ฉลาด ด้วยคะแนน 12 ต่อ 11 คะแนน และมีผู้ไม่ออกเสียง 2 คะแนน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น