จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ญาติผู้ต้องขังคาใจที่สามีเสียชีวิตในเรือนจำ



เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ที่ห้องดับจิต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต นางสายหยุด รักการดี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้เดินทางมาตรวจสอบศพของนายประนอม ดุกสุขแก้ว อายุ 48 ปี สามีของนางสายหยุด หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำภูเก็ตว่า สามีคือนายประนอม ได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ


ทั้งนี้นางสายหยุด ได้กล่าวว่า นายประนอม มีอาชีพขับรถสิบล้อ ที่ศาลจังหงวัดภูเก็ตได้ตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 16 ปี ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ในคดีพรากผู้เยาว์ เหตุเกิดเมื่อปี 2545 โดยที่ศาลได้ตัดสินจำคุกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นในวันที่ 4 และ 6 ธันวาคมที่ผ่าน ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำปรากฏว่านายประนอมพูดจาไม่รู้เรื่อง จำใครไม่ได้ บอกแต่เพียงว่าเจ็บบริเวณอก เมื่อทราบเช่นนั้น ก็ได้ติดต่อให้ทนายขอยื่นประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันน้อยเกินไป และต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 11 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 08.00 น.ซึ่งตนตั้งใจที่จะไปเยี่ยมนายประนอมและจะทำเรื่องขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ได้โทรมาหาและบอกว่า นายประนอม เสียชีวิตแล้ว โดยศพอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 


นางสายหยุด ยังกล่าวต่ออีกว่า จากสภาพศพที่เห็น คือมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย อีกทั้งยังมีแผลคล้ายของแหลมทิ่มบริเวณที่ศีรษะจำนวน 3 รู อย่างไรก็ดีคงต้องรอผลชันสูตรถึงสาเหตุการตายว่าเกิดจากอะไร โดยในเบื้องต้นไม่ปักใจเชื่อว่านายประนอมจะเสียชีวิตเอง เพราะผู้ตายก่อนเข้าเรือนจำยังมีสภาพร่างกายที่ดีและไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด 


ด้านนายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. เศษ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำผู้ต้องขัง ชื่อนายประนอม ดุกสุขแก้ว อายุ 48 ปี ผู้ต้องขังคดีพรากผู้เยาว์เมื่อราวประมาณปี 2545 และศาลจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการตัดสินคดีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญาเป็นระยะเวลา 16 ปี ซึ่งทางญาติทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งได้รับการประกันตัวในวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ในหลักทรัพย์ 200,000 บาท เข้ารักษาตังที่โรงพยาบาลวชิระและได้เสียชีวิตระหว่างทาง 


นายระพินทร์ กล่าวอีกว่า ทางเรือนจำได้รับตัวนายประนอม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ในช่วงบ่าย และได้พบความผิดปรกติของผู้ต้องขัง มีอาการคุ้มคลั่ง ปีนลูกกรงตลอดเวลา อ่อนเพลีย ต้องการน้ำตลอดเวลาและเกิดอาการชัดกระตุกหลายครั้งกระทั่งเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลวชิระแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งเช้าวันที่ 11 ธันวาคม 55 เวลาประมาณ 06.00 น. หัวหน้าห้องขังได้ตีระฆังเรียกเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้ามารับตัวนายประนอม ซึ่งมีอาการชักกระตุก นำตัวส่งรพ.วชิระภูเก็ต แต่เมื่อถึงรพ.ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รพ.ว่า นายประนอมเสียชีวิตแล้ว จึงได้ประสานไปยังญาติของผู้ตายให้มารับสิ่งของของนายประนอม ตลอดจนทำความเข้าใจกับทางญาติและซักถามประวัติจนทราบว่า ผู้ต้องขังเป็นคนที่ติดสุราขั้นรุนแรง และไม่ติดใจเอาความในการเสียชีวิตครั้งนี้ 


เรือนจำจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศเป็นเรือนจำสีขาว และได้จัดกิจกรรมพบญาติขึ้นเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อผ่อนคลายให้กับผู้ต้องขังอีกด้วย และทางเรือนจำนั้นได้มีมาตรการคุมเข้มในการดูแลความปลอดภัยของผู้ต้องขังทุกราย ไม่มีการทุบตี ทำร้ายจากเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือผู้ต้องขังด้วยกัน นายระพินทร์กล่าวในที่สุด 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น