เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ที่ห้องประชุม Mabe Suite โรงแรมอินดิโก้ เพิร์ล หาดในยาง อ.ถลาง ภูเก็ต นายซาเล็ม โอไบดัลลา รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการพาณิชย์ ภูมิภาคตะวันออกไกลและออสตราเลเซีย สายการบินเอมิเรตส์ ร่วมกับนายมานิต บุญฉิม ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมร.จาเบรอร์ อัล-อะซีบี้ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและอินโดจีน สายการบินเอมิเรตส์
ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดเส้นทางบินตรงดูไบ – ภูเก็ต – ดูไบ ทุกวันของสายการบินเอมิเรตส์ หลังจากเที่ยวบินปฐมฤกษ์ EK 378 เดินทางจากสนามบินนานาชาติดูไบ เวลา 12.45 น. มาถึงสนามบินภูเก็ต เมื่อเวลา 21.55 น.ของวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A-340 – 300 และจากนั้นเที่ยวบิน EK 379 จะเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ตเวลา 00.35 น. และถึงสนามบินนานาชาติดูไบ เวลา 04.35 น.
นายซาเล็ม โอไบดัลลา รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการพาณิชย์ ภูมิภาคตะวันออกไกลและออสตราเลเซีย สายการบินเอมิเรต์ กล่าวว่า การเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างภูเก็ตและดูไบในครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะใกล้กับช่วงเทศกาลวันหยุดที่จะมาถึง และเป็นที่ทราบกันดีว่าภูเก็ตเป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งเส้นทางการบินใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เป็นเส้นทางลำดับที่ 128 ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เปิดให้บริการ เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายเส้นทางการบินของสายการบินเอมิเรตส์ที่มีมากกว่า 120 เส้นทางทั่วโลก
“สายการบินเอมิเรตส์และประเทศไทยได้ร่วมมือกันในกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน และประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญอย่างยิ่งของสายการบิน การเปิดเส้นทางการบินนี้จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะมีเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้สายการบินเอมิเรตส์จะทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากขึ้น”
นายซาเล็ม โอไบดัลลา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สายการบินฯ มีความคาดหวังกับเส้นทางนี้ค่อนข้างมาก โดยในเที่ยวบินปฐมฤกษ์มีผู้โดยสารใช้บริการถึง 85 % ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีความหลากหลายมากขึ้น
ขณะที่นายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ททท. กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภูเก็ตถือเป็นประตูสู่ภาคใต้ และเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เขาหลัก พังงา กระบี่ เป็นต้น รวมทั้งขณะนี้ได้มีการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตให้สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ปีละ 12.5 ล้านคน ในปี 2558 ดังนั้นการเปิดเส้นทางการบินของสายการบินเอมิเรตส์จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาหลากหลายมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น