เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ที่บริเวณลานหน้าตู้ยามบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อสร้างความปลอดภัย และความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งมีการสนธิกำลังกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกสถานีในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
และจากหน่วยต่างๆ ที่มีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครภาคประชาชน เข้าร่วมจำนวน รวม 405 นาย โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติ โอกาสเดียวกันนี้ได้มีการตรวจเยี่ยมและพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวในบริเวณซอยบางลาซึ่งย่านสถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งในปี 2558 รัฐบาลกำหนดสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท โดยกำหนดให้จังหวัดภูเก็ตเป็น 1 ใน 5 พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย และได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และให้บริการนักท่องเที่ยวในทุกๆด้านตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจะมีผลให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบดีว่า จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการระดมกวาดล้างจึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มอบนโยบายให้มีการสนธิกำลังบูรณาการระดมกวาดล้างมาเป็นระยะๆ
“จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2555 จำนวน 22 ล้านคน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวได้เกินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตจำนวนกว่า 3 ล้านคน ถือเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ คือ ความสวยงามของธรรมชาติ หาดทรายชายทะเล อาหารและผู้คนที่มีอัธยาศัยที่ดี ซึ่งในการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการ นอกเหนือจากความสวยงามของธรรมชาติและผู้คนที่ดีแล้ว คือ ความปลอดภัยและการบริการที่ดี
ซึ่งตรงกับภารกิจของตำรวจที่มีความสำคัญมาก ว่าทำอย่างไรจะทำให้คนที่เดินทางเข้ามาแล้วได้รับความสะดวกในการเดินทาง ตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินบริการเข้าเมืองที่ถูกต้องรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และเมื่อเดินทางไปสู่ที่พักหรือแหล่งท่องเที่ยวก็ไม่มีปัญหาเรื่องของการจราจรหรืออุบัติเหตุ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการต่างๆ”
พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวด้วยว่า ในการดำเนินการต่างๆ ดังกล่าวนั้นจะต้องบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่ให้เกิดความสะดวก ความปลอดภัยและผู้ที่เข้าท่องเที่ยวได้รับการดูแล หรือหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตำรวจก็มีประสิทธิภาพในการเข้าไปช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ซึ่งมีนโยบายชัดเจนในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาค ทั้งตำรวจภูธรจังหวัดซึ่งเป็นเจ้าภาพหลัก โดยบูรณาการกับตรวจคนเข้าเมือง ปราบปรามยาเสพติด รวมถึงศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อบูรณาการกำลังให้เกิดความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวฝากด้วยว่า ขอให้มีเอกภาพในการขับเคลื่อนปฏิบัติงานร่วมกันต่อไปในการประสานข้อมูล ดูแลพื้นที่ให้มีความปลอดภัย ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจ นอกจากนี้ยังฝากเรื่องภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงานทั้งการแต่งเครื่องแบบ การพูดจาและพาหนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่จะต้องดูดี
รวมทั้งมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ และมีจิตอาสาในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติ เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ หากเราปฏิบัติหน้าที่ได้ดี พื้นที่มีความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจและมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น และหมายถึงเม็ดเงินที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น