จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ไกด์จีนชาวไทยกว่า 100 คนรวมตัวต่อต้าน-ขับไล่ไกด์



เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557 ที่บริเวณหน้าบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด เลขที่ 74/70 พูนผลไนท์พลาซ่า ถ.พูนผล ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต บริษัทนำเที่ยวต่างชาติ โดยมีกลุ่มไกด์จีนชาวไทยชายหญิงกว่า 100 คน นำโดยนายนนภูรี ภัทรคุณากร แกนนำมักคุเทศจีนชาวไทย ได้รวมตัวชุมนุมชูป้ายผ้า – ป้ายกระดาษเขียนข้อความต่างๆ เช่น คนไทย จะไม่มีงานทำ เมื่อไกค์ต่างชาติ มาแย่งอาชีพ ลูกหลานไทยจะอดตาย เมื่อปล่อยชนต่างชาติ ครองเมือง เป็นต้น 


เพื่อต่อต้านบริษัทนำเที่ยว ที่จ้างไกด์ชาวจีนที่ไม่มีใบอนุญาตหรือไกด์เถื่อน พร้อมทั้งขับไล่ชาวจีนที่เข้ามายังพื้นที่ จ.ภูเก็ตเพื่อการท่องเที่ยว แต่กลับมาทำอาชีพเป็นไกด์ผี ส่งผลให้บริษัทนำเที่ยวไม่จ้างไกด์ชาวไทย ขณะที่ชาวจีนแดงที่เข้ามาเป็นไกด์เถื่อนกลับทำตัวเป็นอันธพาลก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับไกด์ชาวไทย โดยมี พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รองผกก.ป.สภ.เมือง ภูเก็ต พ.ต.ต.รัฐเขตต์ มั่นเมือง สวป.สภ.เมืองภูเก็ตนำกำลังสายตรวจกว่า 10 นายคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ ตลอดเวลาจะมีตัวแทนชาวไทยที่เป็นไกด์จีนออกมากล่าวโจมตีการทำงานของบริษัทดังกล่าวพร้อมกับตะโกนขับไล่ไกด์จีนแดงเถื่อนออกไปจาก จ.ภูเก็ต 


ทั้งนี้นายนนภูรี ภัทรคุณากร แกนนำมักคุเทศจีนชาวไทย ได้กล่าวว่า สำหรับการรวมตัวในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ บริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด ยกเลิกว่าจ้างมักคุเทศจีนที่ผิดกฎหมาย และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหากไม่มีการเลิกจ้างมัคคุเทศก์จีนที่ผิดกฎหมายหรือที่เรียกว่ามัคคุเทศก์เถื่อนที่มีอยู่จำนวนมากก็จะเกิดการส่งผลให้มักคุเทศจีนชาวไทยที่ถูกกฎหมายจะโดนแย่งงานและขาดรายได้มาเลี้ยงชีพ ซึ่งในช่วงนี้เป็น ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว บริษัททัวร์ต่างๆ จะต้องว่าจ้างมัคคุเทศจีนชาวไทย แต่กลับไปจ้างมัคคุเทศชาวจีนที่ผิกฎหมายมาทำงานแทน จึงทำให้มัคคุเทศก์จีนชาวไทยตกงานเป็นจำนวนมาก 


ต่อมานายกฤชกร รุ่งมงคลนาม ผู้บริหารบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัดและเป็นกรรมการฝ่ายตลาด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตได้ออกมาพูดคุยและเจรจากับตัวแทน – กลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อสอบถามจุดประสงค์ของการชุมนุมดังกล่าว ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้บริษัทนำเที่ยวต่างๆ จัดจ้างคนไทยที่มีอาชีพเป็นไกด์หรือมัคคุเทศก์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่นำคนของประเทศนั้นๆ มาทำหน้าที่เป็นไกด์ มิฉะนั้นจะเป็นการนำรายได้ออกนอกประเทศ ซึ่งไม่ได้ตกอยู่ในท้องถิ่น 


ขณะเดียวกัน จ.ภูเก็ตมีไกด์เถื่อนหลายชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ ทำให้ข้อมูลและวัฒนธรรมต่างๆ ที่สื่อสารให้กับนักท่องเที่ยวผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกลับเมินเฉยกับปัญหาดังกล่าว โดยนายกฤชกรขอรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปหารือกับผู้บริหารบริษัทในการรับไกด์เพิ่ม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจและสลายการชุมนุมในที่สุด 


สำหรับการชุมนุมขับไล่หรือต่อต้านการจ้างไกด์เถื่อนของบริษัทนำเที่ยวจีนใน จ.ภูเก็ตเกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนไทยที่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยวจีนกว่า 100 คนรวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมและประท้วงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต หลังตำรวจจับกุมไกด์จีนชาวไทยในข้อหาทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายไกด์บริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งใน อ.เมืองภูเก็ต แต่ไม่มีการแจ้งข้อหากับกลุ่มคู่กรณี พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับบริษัทนำเที่ยวที่จ้างชาวจีนมาเป็นไกด์แย่งงานคนไทยทำ 


โดยได้เชิญตัวนายสุรพล แซ่หลุบ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.2 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายจา แซ่ม้า อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/444 ม.4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ตมาสอบสวน หลังนายต้า เหล็ง อายุ 34 ปี พนักงานบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัดแจ้งความข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ โดยเหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ตลาดนัดวัดนาคา ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มไกด์จีนชาวไทยไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวรวมตัวมาต่อต้านและขับไล่ไกด์เถื่อนชาวจีนที่หน้าบริษัทดังกล่าว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น