จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

คนร้ายใช้ปืนยิงหนุ่มใหญ่ดับคาที่ต่อหน้าเมีย



เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ร.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุยิงตายขึ้นภายในชุมชนประชาสามัคคี เกาะแก้ว ซ.10 ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง ภูเก็ต ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รอง.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง รองผกก.สส.พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง.ผกก.ป.พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ พฐ.จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลเกาะแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต 


ที่เกิดเหตุเป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่เก่า และได้มีชาวบ้านเข้ามาทำการจับจองเป็นเจ้าของจำนวน ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้หนองน้ำติดกับบ้านปูนขนาดชั้นเดียว พบศพชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นหญ้า สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีครีม ใส่รองเท้าผ้าใบสีเทา ที่ศีรษะสวมหมวกแบบคาวบอยสีเทา ใกล้กันพบซองปืนหนังขนาด .38 สีดำตกอยู่ โดยมีมีดพร้าตกอยู่อีก 1 เล่ม 


ตรวจสอบทราบชื่อคือนายอีฉา ยาลา อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่ 43 ม.4 ต.กมลา อ.กะทู้ ภูเก็ต ตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัด ประกอบด้วย บริเวณจมูกขวา 1 นัดกระสุนทะลุ บริเวณแก้มซ้ายกระสุนทะลุ 1 นัด และบริเวณเอวกระสุนทะลุอีก 1 นัด ไม่พบหัวหรือปลอกกระสุนบริเวณที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าเป็นปืนแบบลูกโม่ จึงไม่พบปลอกกระสุนปืน จึงนำศพส่ง รพ.วชิระภูเก็ตเพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง 


ทั้งนี้จากการสอบถามนางสังวาล นอร์สต็อคเกอร์ อายุ 45 ปี ถึงเป็นภรรยาของผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 – 7 คนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน นต 6571 กรุงเทพมหานครและรถกระบะอีซูซุตอนครึ่งสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับเข้ามาจอดที่บริเวณที่ดินแปลงดังกล่าว โดยนายอีฉากำลังแผ้งถางอยู่ภายในที่ดินดังกล่าว ส่วนตนเองยืนอยู่ห่างๆ จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เดินเข้ามาหานายอีฉาพร้อมกับสั่งให้นายอีฉาออกจากพื้นที่ไป แต่นายอีฉาไม่ยอมออก จนกระทั่งมีปากเสียงกัน โดยในกลุ่มชายฉกรรจ์มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ 2-3 นายรวมอยู่ด้วย 


โดยที่นายอีฉายืนถือมีดพร้าอยู่ในมือ ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่กล้าที่จะทำอะไร ได้แต่พูดจาเสียงดังพร้อมกับอ้างสิทธิ์ที่ดินบริเวณดังกล่าว ทั้งๆ ที่ที่ดินบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่จับจอง จากนั้นชายฉกรรจ์ที่มีลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้เดินกลับไปที่รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาวพร้อมกับหยิบปืนในรถแล้วเดินปรี่เข้ามาหานายอีฉาพร้อมกับลั่นไกใส่ร่างนายอีฉาอย่างไม่พูดไม่จา 3 นัดซ้อน ทำให้นายอีฉาที่กำลังยืนถือมีดพร้าล้มทั้งยืนลงไปกองกับพื้นแน่นิ่งต่อหน้าต่อตาตนเอง จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์จึงเดินขึ้นรถทั้ง 2 คันขับหลบหนีไปอย่างใจเย็น 


และจากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายอีฉาและครอบครัวได้เข้ามาจับจองที่ดินบริเวณดังกล่าวราว 1 ไร่มาได้สักระยะหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าชายเลน โดยชาวบ้านต่างเข้ามาจับจองเป็นกรรมสิทธิ์โดยเป็นการครอบครองโดนปรปักษ์ ปลูกพืชอาสินหรือล้อมรั้ว เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ในการครอบครอง ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย โดยนายอีฉาเป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่เข้ามาจับจองปลูกบ้านและล้อมรั้วเมื่อหลายปีก่อน เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวอาจเป็นกลุ่มนายหน้าขายที่ดินให้กับนักธุรกิจทั้งในและนอกพื้นที่ โดยอาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นนายหน้าอยู่ด้วย 


ซึ่งก่อนเกิดเหตุอาจมีการพาผู้ที่ต้องการจะซื้อที่ดินจับจองแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันกับที่นายอีฉาครอบครองอยู่เช่นเดียวกันมาดู และอาจมีการรับมัดจำเงินซื้อขายที่ดินกันมาแล้ว ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างกลุ่มชายฉกรรจ์กับนายอีฉา จนเป็นเหตุให้นายอีฉาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ดีอยู่ระหว่างการสืบสวนว่าชายฉกรรจ์ที่พยานปากเอกระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเป็นตำรวจสังกัดใดและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารครั้งนี้หรือไม่ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น