จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

“ชวน” ยอมรับห่วงคดียุบพรรคมาตลอด แต่พอใจผลการไต่สวนที่ผ่านมา


นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้จะมีการนัดสืบพยานอีกครั้งซึ่งรวมทั้งนายกรัฐมนตรีด้วย ต่อจากนั้นก็คงจะต้องรอว่าทางศาลให้ดำเนินการเช่นไร หากสืบพยานเสร็จและไม่มีอะไรเพิ่มเติมก็คงจะให้เวลาในการยื่นแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งก็ต้องรออีกเช่นกันว่าศาลจะกำหนดระยะเวลากี่วัน หลังจากนั้นหากไม่มีอะไรเพิ่มเติมก็คงจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยตัดสินได้

“ความมั่นใจของทีมที่กฎหมายก็มีความพอใจ แต่ได้มีขอร้องและห้ามทุกคนในทีมกฎหมายว่าอย่าไปพูดอะไรก็ตามที่จะเป็นการไม่ให้เกียรติกับศาล เช่น คดีนี้สบาย รอดยุบแน่ เป็นต้น เพราะจะทำให้เกิดความกดดันขึ้นอย่างที่เห็นและเป็นที่ทราบกันอยู่ที่มีความพยายามของบางฝ่ายทำให้เกิดความกดดันกับศาล เช่น การใช้คำว่าหากประชาธิปัตย์ชนะก็แสดงว่ากระบวนการยุติธรรมมี 2 มาตรฐาน หรือหากไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์แสดงว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องไม่ควรพูด โดยที่ผ่านมาได้พยายามออกมาปรามเสมอว่าทุกคนควรให้เกียรติกับกระบวนการยุติธรรม เพราะเมื่อเรายอมรับการปกครองในระบบนี้ และยอมรับกระบวนการศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง เราก็ต้องยอมรับกระบวนการในการตัดสินของท่าน เพียงแต่บทบัญญัติของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีข้อที่เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาล จึงทำให้หลายคนใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม และมีการพาดพิงไปถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”

นายชวน กล่าวว่า เสียดายที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ท่าน จาก 9 ท่าน ที่ต้องถอนตัวออกไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ น่าเสียดายตรงที่มีคนพยายามที่เรียกว่าใช้การฝ่าไฟแดง คือ การพูดโดยยอมให้ถูกฟ้อง ซึ่งจะกลายเป็นคู่กรณีกันไป เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านตุลาการศาลฯ จึงต้องถอนตัว เพราะไม่อยากที่จะให้เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นปัจจุบันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงเหลือเพียง 7 ท่าน แต่ส่วนตัวคณะทำงานพอใจผลการพิจารณาคดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่เป็นห่วงในคดีนี้นั้น นายชวนกล่าวว่า มีความเป็นห่วงอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่เข้ามารับทำหน้าที่ตรงนี้ใหม่ๆ หนักใจมาก โดยเฉพาะเรื่องของเอกสารซึ่งมีเป็นจำนวนนับพันหน้ากระดาษ และได้ให้เนติบัณทิตรุ่นใหม่มาช่วยอ่านเอกสารดังกล่าวเพื่อให้ข้อสังเกตซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมาก เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคฯ และมาถูกฟ้องในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคฯ ซึ่งตนก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียดมากนัก ก็ต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่โชคดีที่ได้เชิญนายบัญญัติ มาร่วมในคณะทำงานด้วย รวมถึงทนายที่เคยทำเรื่องนี้เป็นหลัก และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มาช่วยอีกแรง แต่อย่างไรก็ตามผลจากการไต่สวนวันแรกจนถึงปัจจุบันทุกคนในคณะทำงานพอใจ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น