เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวประมงที่หาปลาอยู่บริเวณหาดราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ว่า มีเรืออพยพชาวโรฮิงญามาลอยลำเรืออยู่ใกล้กับเกาะบอน หน้าหาดราไวย์ ขอให้ไปตรวจสอบด้วย จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤตภาศ เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายสิน พลรบ กำนันตำบลราไวย์ ตลอดจนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบ
ตรวจสอบพบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือไม้ ยาวประมาณ 17-20 เมตร กว้าง 1.50 เมตร ลึกประมาณ 1.50 เมตร โดยมีชาวโรฮิงญาอาศัยมาด้วยกันรวม 74 คน แบ่งเป็นชาย จำนวน 60 คน และหญิง จำนวน 14 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี รวมอยู่ด้วยกว่า 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอิดโรย
จากนั้นทางนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ เพื่อให้จัดซื้ออาหารกล่อง พร้อมทั้งน้ำดื่ม และลำเลียงมาให้การช่วยเหลือกับชาวโรฮิงญาในเบื้องต้น
จากการสอบถามนายมูฮาหมัด อายุ 45 ปี กล่าวผ่านทางล่าม ว่า เขาและเพื่อนบ้านได้เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือค่อนไปทางทิศตะวันตกของสหภาพเมียนมาร์ โดยเรือลำใหญ่และได้มาเปลี่ยนถ่ายลงเรือลำเล็กอีกทอดหนึ่ง
กระทั่งน้ำมันเชื้อเพลิงเรือมาหมดบริเวณหน้าหาดราไวย์ โดยมีเป้าหมายที่จะเดินทางเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ไม่ได้ต้องการเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด และอยากร้องขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำพาไปส่งที่ประเทศมาเลเซียด้วย ซึ่งสาเหตุที่ต้องดิ้นรนออกมา เนื่องจากบ้านเรือนที่อยู่ถูกเผาทำลายจนหมดสิ้น และยังถูกกักบริเวณทำให้ไม่สามารถทำมาหากินได้อย่างปกติ อยู่ไปก็ตาย หากหนีออกมาได้อย่างน้อยก็ยังมีความหวังว่าจะมีชีวิตรอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น