จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

ติวเข้มหน่วยงานและเจ้าของแหล่งกำเนิดมลพิษ



เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2556 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจง เรื่อง การดำเนินงานตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต (ทสจ.ภูเก็ต) ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต จัดขึ้น 


เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของแหล่งกำเนิดมลพิษทราบถึงแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานตามกฎกระทรวง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และเจ้าของแหล่งกำเนิดมลพิษ เข้าร่วมจำนวน 80 คน 


นายไชยผดุง พรหมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ได้กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษซึ่งมีระบบบำบัดน้ำเสียตามมาตรา 70 เป็นของตนเอง มีหน้าที่ต้องจัดเก็บสถิติและข้อมูลซึ่งแสดงผลการทำงานของระบบหรืออุปกรณ์ และเครื่องมือในแต่ละวัน และจัดทำบันทึกรายละเอียดเป็นหลักฐานไว้ ณ สถานที่ตั้งแหล่งกำเนิดมลพิษนั้น และจะต้องจัดทำรายงานสรุปผลการทำงานของระบบหรืออุปกรณ์และเครื่องมือ เสนอต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่แหล่งกำเนิดมลพิษนั้นตั้งอยู่อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง 


และทั้งนี้ ตามมาตรา 81 กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นรวบรวมรายงานที่ได้รับตามมาตรา 80 ส่งไปให้เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในเขตท้องถิ่นนั้นเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งและจะทำความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษเสนอไปพร้อมกับรายงานที่ส่งไปด้วยซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ ได้ประกาศกฎกระทรวงฯ กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และแบบการจัดเก็บสถิติ ข้อมูล การจัดบันทึกรายละเอียดและรายงานสรุปผล การทำงานของระบบบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2555 และมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2555 เป็นต้นมา 


ขณะที่นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติม ปัจจุบันสถานประกอบการหลายแห่ง แม้จะมีระบบบำบัดน้ำเสียเป็นของตนเองตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 แล้วก็ตาม แต่ไม่ได้ดำเนินการเดินระบบแต่อย่างใด และปล่อยให้ระบบบำบัดน้ำเสียชำรุดทรุดโทรม ไม่ได้ซ่อมบำรุงให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งน้ำเสียที่เก็บกักไว้โดยไม่ได้บำบัดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาจกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และสุขภาพของประชาชนในบริเวณข้างเคียง


แม้ว่ากฎกระทรวงฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วก็ตาม แต่ยังมีสถานประกอบการหรือแหล่งกำเนิดมลพิษที่เข้าข่ายอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่ทราบหรือยังไม่เข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติ จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ทำความเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติ และได้ทำความเข้าใจในหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนด สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะต้องเข้มงวดกวดขัน


มิฉะนั้นอาจเป็นการละเว้นในการปฏิบัติได้ สำหรับเจ้าของแหล่งกำเนิดมลพิษก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะกฎหมายได้กำหนดโทษไว้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการประชุมชี้แจง อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณและจำนวนแหล่งกำเนิดมลพิษที่เข้าข่ายมีจำนวนมาก จึงอยากฝากให้ผู้ที่มีโอกาสรับรู้ข้อมูลได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลผ่านเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้รับรู้รับทราบกันอย่างทั่วถึงโดยเร่งด่วน นางสาวสมหมายกล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น