จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตม.ภูเก็ตรวบสาวเกาหลีหลอกเพื่อนร่วมชาติ




เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจงหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.เทียนชัย ชมพู สว.ตม.จว.ภูเก็ต ร.ต.ท.จงรัก คะพิมพ์ภิบาลบุตร ร.ต.ท.ปิยวิทย์ สิทธิหล่อ รอง สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นางลี มิกยุง (Miss. Lee Mikyong) อายุ 48 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 


สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกำลังชุดสืบสวน ตม.จ.ภูเก็ต ได้ออกกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบห้วงวันที่ 18 – 24 มิถุนายน 2557 พบหญิงสาวต่างชาติอยู่ภายในร้านอาหารดังกล่าว มีท่าทางพิรุธ เจ้าจึงได้แสดงตัวพร้อมกับขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทราบชื่อคือ นางลี มิกยุง อายุ 48 ปีสัญชาติเกาหลีใต้ และเป็นบุคคลที่มีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ จ.311/2554 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2554 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและอยู่ระหว่างการหลบหนี เบื้องต้นนางลียอมรับว่าเป็นบุคคลตามชื่อดังกล่าวจริง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต 


จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อช่วงปลายปี 2553 นางลีได้เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่อ้างตัวเป็นบริษัทนำเข้ากาแฟสดจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อนำมาจำหน่ายที่ จ.ภูเก็ต โดยมีเจ้าของบริษัทเป็นสองสามีภรรยาชาวเกาหลี จากนั้นได้ชักชวนชาวเกาหลีเข้ามาร่วมลงทุนค้ากาแฟสดนำเข้าดังกล่าว โดยมีการทำเอกสารเกี่ยวกับยอดขายที่สูงเกินจริง เพื่อดึงดูดความสนใจผู้ร่วมลงทุนชาวเกาหลีด้วยกันว่า มีผลกำไรสูงและยอดขายดี ทำให้หนึ่งในผู้เสียหายนำเงินสดกว่า 2 ล้านบาทมาลงทุนซื้อกาแฟสดดังกล่าว แต่หลังจากนั้นบริษัทดังกล่าวได้ปิดตัวลง ทำให้เหยื่อที่ร่วมลงทุนสูญเงินนับล้านบาท จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมสองสามีภรรยาชาวเกาหลีเจ้าของบริษัทดังกล่าวไปแล้ว จนกระทั่งพบนางลี ซึ่งเป็นพนักงานทำบัญชีของบริษัทดังกล่าวและมีหมายจับของศาล จ.ภูเก็ตในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงติดตัวอยู่ เจ้าหน้าที่ ตม.จ.ภูเก็ตจึงจับกุมตามหมายจับดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าอาจมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของบริษัทดังกล่าวในลักษณะเช่นนี้อีกหลายราย มูลค่าอีกหลายล้านบาท แต่อาจไม่มีผู้ใดกล้าเข้าแจ้งความดำเนินคดี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น