จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พมจ.ภูเก็ต ติมเข้มอาสาสมัครฯ สู่สังคมสมานฉันท์




เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 ที่ห้องประชุมโรงแรมออล ซีซั่น ในหาน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “อพม...รวมใจภักดิ์ สร้างรัก สามัคคี ความปรองดอง สู่สังคมสมานฉันท์ในชุมชน” ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต 


โดยมีนางพิมพร ขอศานติวิชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต (พมจ.ภูเก็ต) หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้แทนจากอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จากตำบลต่างๆ และเครือข่ายอาสาสมัครที่สนใจเข้าร่วมประมาณ 60 คน 


นางพิมพร ขอศานติวิชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประทรวงหลักที่มีบทบาทรับผิดชอบดำเนินงานด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งการที่จะบรรลุผลได้นั้นปัจจัยที่มีผลสำคัญยิ่ง คือ การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและส่งเสริม 


สนับสนุนการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบสังคมร่วมของภาคีทุกภาคส่วน เสริมสร้างกลไกอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ให้เป็นกลไกการดำเนินงานที่สร้างความปรองดอง สามัคคี สู่สังคมสมานฉันท์ในชุมชนให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในระดับพื้นที่สามารถเข้าถึงการพิทักษ์คุ้มครองสิทธิอย่างเป็นธรรมและเสมอภาค 


ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อาสาสมัครเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ในการพัฒนาสังคม ดังนั้นการจัดโครงการ อพม. รวมใจภักดิ์ สร้างรัก สามัคคี ความปรองดองสู่สังคมสมานฉันท์ในชุมชน 


จึงเป็นการบูรณาการกระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วมของภาครัฐและเครือข่ายอาสาสมัคร ทั้งยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้มีกระบวนการเสริมความรู้ ความสามารถและทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของ อพม.ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 


พลัง อพม. เป็นพลังสำคัญในการสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง สู่สังคมสมานฉันท์ในชุมชน สังคมและประเทศชาติ และการที่ อพม.ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นการจัดทำข้อเสมอการปฎิรูปสังคม การเสริมเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง และคืนความสุขให้คนในชาติ ในมุมมองของอาสาสมัครจะเป็นแนวทางสำคัญให้ประชาชนในประเทศพบกับความสุขอีกครั้ง 


อย่างไรก็ตามนายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า หลักในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ที่สำคัญคือ เมื่อมีปัญหาจะต้องมาพูดคุยและทำความเข้าใจกัน สร้างความเท่าเทียมเสมอภาค ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และใช้หลักกฎหมายเมื่อเกิดความขัดแย้งตามลำดับขั้นตอน เพื่อสร้างความเป็นธรรม นำไปสู่ความปรองดองให้เกิดขึ้นในที่สุด 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น