ส่วนอนุรักษ์ฯ ทางทะเลฟังความเห็นดำน้ำในแนวปะการัง

ส่วนอนุรักษ์ฯ ทางทะเลฟังความเห็นดำน้ำในแนวปะการัง 

เมื่อเร็ว ๆนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการ ส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็น ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ และวิธีการท่องเที่ยวดำน้ำในบริเวณแนวปะการังจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ.... 

โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยวดำน้ำลึก ผู้นำการดำน้ำ ครูสอนดำน้ำ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในการกำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ และวิธีการท่องเที่ยวดำน้ำในบริเวณแนวปะการัง ก่อนที่จะมีการจัดทำรายละเอียดและนำเสนอขอความเห็นชอบร่าง เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป 

สำหรับการจัดทำแนวทางและมาตรการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลดังกล่าว เนื่องจากแนวปะการังของประเทศไทยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย มีพื้นที่รวมกันประมาณ 128,256 ไร่ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยหลบไปวางไข่ เลี้ยงตัวของสัตว์น้ำวัยอ่อน และสิ่งมีชีวิตนานาชนิด มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่และประเทศแนวปะการังเป็นจุดขายสำคัญของการท่องเที่ยวทางทะเลของไทยรองจากชายหาดและเกาะแก่งต่างๆ 

แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศไปดำน้ำดูปะการังไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน โดยเฉพาะกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง ความสวยงามและสิ่งมีชีวิตในบริเวณแนวปะการัง กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำลึกเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต้องใช้พื้นที่หรือบริเวณแนวปะการัง และกำลังเป็นที่สนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเช่น จีน เกาหลี รัสเซีย เป็นต้น มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ ในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล จากข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจให้บริการท่องเที่ยวน้ำลึกในปี 2558 มีมากกว่า 200 บริษัทและมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีในหลายพื้นที่