จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

ธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตยื่นแถลงการณ์แสดงจุดยืน


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2553 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหาดกะตะกะรน และสมาคมสปาภูเก็ต ตลอดจนพนักงานตัวแทนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวสาขาอื่นๆ จำนวนรวมประมาณ 200 คน พร้อมแผ่นป้ายข้อความต่างๆ เช่น ทุกฝ่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย สมานฉันท์เพื่อท่องเที่ยวไทย ให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง เป็นต้น ได้เดินทางมายื่นแถลงการณ์ผ่านทางนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ส่งไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ให้ยุติความรุนแรง และร่วมกันแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมอย่างสันติ และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคมไทย โดยให้แต่ละฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ และร่วมกันนำพาประเทศสู่ความเจริญมั่นคงต่อไป

ทั้งนี้นายสมบูรณ์ ได้อ่านแถลงการณ์ใจความว่า จากสถานการณ์ความขัดแข้งทางการเมืองที่ผ่านมาในระยะเวลา 2-3 ปีนั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างกว้างขวางไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ดังปรากฏตามสื่อต่างๆ และเป็นที่รับทราบของสาธารณชน อย่างไรก็ตามปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาดูเหมือนว่าแต่ละฝ่ายยังไม่สามารถหาแนวทางร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ข้อยุติอย่างสันติ และสามารถกลับไปสู่การดำเนินวิถีชีวิต ทั้งในด้านความเป็นอยู่และการดำเนินธุรกิจอย่างปกติสุข

ผลกระทบจากความขัดแย้งดังกล่าวได้ส่งผลทางธุรกิจโดยตรงต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสาขาอาชีพ และเป็นที่ทราบดีว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบของเม็ดเงินการจ้างงานและสร้างรายได้อย่างมากมาย และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ความประทับใจและการให้บริการด้านต่างๆ ตลอดจนการเดินทางเข้าท่องเที่ยวในโอกาสต่อไปในอนาคต

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้มิได้กระทบเฉพาะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในด้านการท่องเที่ยวและการย้ายแหล่งท่องเที่ยวจากประเทศไทยไปสู่ประเทศอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างยั่งยืน สมาคมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง และร่วมกันแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมอย่างสันติ และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคมไทย โดยให้แต่ละฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ และร่วมกันนำพาประเทศสู่ความเจริญมั่นคงต่อไป

ขณะที่นายวิชัย กล่าวว่า ขอบคุณที่มาแสดงออกด้วยวิธีการที่สันติ เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะทุกคนสามารถที่จะมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่อย่าให้เกิดความแตกแยก เนื่องจากท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอ่อนไหว หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างแน่นอน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น