จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประมงภูเก็ตปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 1.51 ล้านตัว


เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 53 ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีปล่อยพันธ์สัตว์น้ำเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหามหาราชินี โดยมีนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายภูริภัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ขนส่งทางน้ำภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต นายกะวิ สารณาคมน์กุล ประมงจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนข้าราชการ หน่วยงานเกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติ รวมทั้งนักเรียน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในพิธี

ทั้งนี้นายกะวิ สารณาคม์กุล ประมงจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ทางสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต สโมสรโรตารี จัดกิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหามหาราชินี ขึ้น โดยสัตว์น้ำที่นำมาปล่อยในครั้งนี้ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วย จำนวน 1,500,000 ตัว ลูกพันธ์ปูม้า จำนวน 10,000 ตัว และปลาฉลามขาวจำนวน 1 ตัว เพื่อเป็นการปฏิบัติกิจกรรมอันเป็นกุศลธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2553 รวมทั้งเป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ และยังเป็นการปลูกฝังสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำอย่างถูกต้องและเพื่อเป็นการประสานความรัก สามัคคีของกลุ่มบุคคลทั้งภาครัฐและเอกชนในการร่วมดำเนินกิจกรรมอันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ

ด้านนายนิวิทย์ ได้กล่าวว่า การปล่อยพันธ์สัตว์น้ำในครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายเป็นราชกุศล แด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ซึ่งทางสำนักงานประมงจังหวัด ที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เห็นถึงความสำคัญของแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ประกอบกับประชาชนในพื้นที่มีจิตสำนึกร่วมกันที่จะอนุรักษ์ รักษาทรัพยากรในท้องถิ่นของตนได้อย่างเข้มแข็ง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ประกอบกับในบริเวณสะพานหินแห่งนี้เป็นทะเลใกล้เมือง ความสมดุลของธรรมชาติก็จะกลับคืนสู่ทะเลต่อไปในอนาคต


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น