เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ที่หอประชุมชมรมผู้สูงอายุเทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ ฝึกอบรมทบทวนลูกเสือชาวบ้านจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2553 ซึ่งทางชมรมลูกเสือชาวบ้านจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 78 พรรษา เพื่อเทิดทูน สร้างความตระหนักและสร้างจิตสำนึกในการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างเสริมค่านิยมความเป็นไทย สนับสนุนการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างแรงจูงใจในการน้อมนำกระแสพระราชดำรัส ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ให้เหมาะสมกับสังคม ประเพณี วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นการทบทวนกระบวนการลูกเสือชาวบ้าน กฎ คำปฏิญาณ ตลอดจนวิชาการและหลักการต่างๆ เสริมสร้างความสามัคคีสมานฉันท์ด้วยกระบวนกรลูกเสือชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นการร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์วันคล้ายวันกำเนิดลูกเสือชาวบ้านด้วย
นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ลูกเสือชาวบ้านเป็นองค์กรของประชาชน ที่สำคัญยึดมั่นเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนกลางในการสร้างความรัก ความสามัคคีพัฒนาตนเองให้เป็นพลเมืองดี โดยยึดหลักคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสร้างสรรค์สังคมให้มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อความผ่าสุขของประชาชนและความมั่นคงของชาติ โดยใช้กระบวนการลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กรลูกเสือชาวบ้าน ดังนั้นลูกเสือชาวบ้านจึงจำเป็นที่จะต้องรับทราบสถานการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งจะต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันด้วย
“กิจการลูกเสือชาวบ้าน เป็นกิจการที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีส่วนราชการเป็นฝ่ายสนับสนุนบริหารโดยประชาชน ดำเนินการโดยประชาชน มุ่งผลในการสร้างความสุขให้แก่สังคม และสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดองร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทำให้สังคมเรียบร้อยและสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนเป็นคนดี มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นที่ตั้ง”
นายไชยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาลูกเสือชาวบ้าน ได้ช่วยกันทำประโยชน์ สร้างสังคมให้เป็นปึกแผ่นเกิดประโยชน์สุขแก่ท้องถิ่นและบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์และยอมรับของคนทั้งหลาย นอกจากนี้ในการทำงานนั้นก็จะต้องเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ และต้องมีใจศรัทธา ด้วยพลังความดีที่บริสุทธ์ดังกล่าวจะสามารถคงอยู่ถาวรและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคคลอื่นๆ ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น