เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 53 ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (สวนหลวง) ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นยางนา 999 ต้น ตามโครงการ “เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน แม่ทั้งประเทศปลูกต้นไม้ถวาย 77 แสนต้น” ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจัดโดย เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะ-กะรน สโมสรโรตารี่ทุ่งคา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมสตรีอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาด จ.ภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายสมชาย ศิลปานนท์ นายกสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะ – กะรน พร้อมกันนี้ทางสมาคมสตรีอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต ยังได้นำอีเอ็มบอล หรือลูกบอลจุลินทรีย์ (EM Ball) มาโยนลงในแหล่งน้ำเพื่อรักษาคุณภาพแหล่งน้ำภายในสวนเฉลิมพระเกียรติด้วย
ทั้งนี้นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดจัดโครงการ “เฉลิมพระเกียรติ แม่ของแผ่นดิน แม่ทั้งประเทศปลูกต้นไม้ ถวาย 77 แสนต้น” โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2552 เป็นต้นมา เทศบาลนครภูเก็ตได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการดังกล่าว จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะ – กะรน สโมสรโรตารี่ทุ่งคา ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)สมาคมสตรีอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรม ปลูกต้นยางนา 999 ต้น และโยนลูกบอลจุลินทรีย์ลงในแหล่งน้ำ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (สวนหลวง) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 12 สิงหาคม และเพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมให้กับประชาชนในการอนุรักษ์ป่าไม้ และแหล่งน้ำ
สำหรับต้นกล้าซึ่งเป็นต้นยางนาจำนวน 999 ต้น ทางเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนจากทางสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมกะตะ – กะรน ซึ่งได้มีการเพาะต้นกล้าเอาไว้แล้ว ส่วน อีเอ็มบอล ทางเทศบาลนครภูเก็ตได้รับการสนับสนุนลูกบอลจุลินทรีย์ จำนวน 9,999 ลูก จากสมาคมสตรีอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ตโดยมีองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ให้ความร่วมมือจำนวน 76 องค์กร 1,200 คน
นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ชุมชนของตนเองและช่วยแก้ไขมลภาวะอันจะส่งผลให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไปจนชั่วลูกชั่วหลานต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น