เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 53 ที่ห้องแวร์ราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ตพล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาศูนย์ประสานการปฏิบัติ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติในทะเล เขต 3 เรื่องแนวทางการจัดระเบียบเรือ ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 5 ภูเก็ต ตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมประมง ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ใน 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันเข้าร่วม
ทั้งนี้ น.อ.นิพนธ์ สมเหมาะ ผอ.ยก.ทรภ.3 หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน ศรชล.เขต 3 ได้กล่าวถึงการสัมมนาแนวทางการจัดระเบียบเรือในพื้นที่ฝั่งอันดามันว่า เนื่องจากในพื้นที่อันดามัน ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัด พังงา กระบี่ ตรัง ระนอง สตูล และภูเก็ต ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่ได้เดินทางทางเรือเป็นจำนวนมาก หากมีการจัดระเบียบเรือในการการเดินทางหรือเข้าออกของเรือ จะเป็นการสะดวกในการเฝ้าระวัง หรือการเดินทางไปช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน จึงได้จัดการสัมมานาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อที่จะได้ระดมความคิดเห็นจากบุคคลากรของหน่วยงานหลักในศรชล.เขต3และผู้เกี่ยวข้อง โดยจะรวบรวมรายละเอียดข้อมูลในด้านต่างๆ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และเพียงพอ สำหรับกำหนดแนวทางการดำเนินงานการเพื่อจัดระเบียบเรือในพื้นที่ทะเลอันดามัน และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำให้การดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และมีความมั่งคงถาวร รวมทั้งสามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
โดยการสัมมนาได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วยการพิจารณากำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการจัดระเบียบเรือ ที่ตอบสนองต่อการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายของเรือไทย และเรือต่างชาติ การรักษาความปลอดภัยให้กับเรือไทยและเรือต่างชาติ และการป้องกันการกระทำอันเป็นโจรสลัด การพิจารณาระบบ เครื่องมือ เทคโนโลยีที่สนับสนุน การดำเนินการตามแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการจัดระเบียบเรือ การพิจารณาด้านกฎหมายและระเบียบที่รองรับการจัดระเบียบเรือ
ด้านพล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ในฐานะผอ.ศรชล.เขต 3 ได้กล่าวว่า พื้นที่ทะเลฝั่งอันดามัน นับว่ามีผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียงขนส่งทางทะเล การประมง การท่องเที่ยว และทรัพยากรอื่นๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของศูนย์ศลชล.เขต.3 ที่จะต้องช่วยกันรักษาและดำรงไว้ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป แต่เนื่องจากปัจจุบันวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่มีขีดจำกัดและไร้การควบคุม จึงทำให้การดำเนินกิจกรรมในทะเล มีแนวโน้มที่สร้างปัญหาต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การแย่งชิงและทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การก่อการร้าย การลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษี และโจรสลัด
จากผลการดำเนินงานของศรชล.เขต.3 ในรอบ 9 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 52 – เดือนมิถุนายน 53 ได้มีการจับกุมการลักลอบและขนสิค้าหนีภาษีจำนวน 1 ครั้ง จับกุมการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 18 ครั้ง ผู้ต้องหา 52 คน การจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายประมงจำนวน 1 ครั้ง การจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้จำนวน 1 ครั้งยาเสพติดให้โทษจำนวน 6 ครั้ง ด้านการช่วยเหลือเรือและผู้ประสบภัยทางทะเลจำนวน 11 ครั้ง ซึ่งหากมีการจัดระเบียบเรืองอย่างเป็นระบบ ซึ่งหมายถึงการมีขีดความสามารถในการตรวจการณ์ การพิสูจน์ทราบ การติดตาม รวมทั้งการควบคุมและบังคับใช้กฎหมาย ก็จะเป็นการจำกัดขอบเขตของปัญหาให้ลดน้อยลงได้ ซึ่งเมื่อได้ขอบเขตและกฎหมายในการปฏิบัติแล้ว ก็จะเริ่มดำเนินการโดยคาดว่าจะเริ่มได้ในปีงบประมาณที่จะถึงนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น