จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

มวลมหาชนภูเก็ตร่วมกิจกรรมชัตดาวน์



เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 ที่บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ถนนนริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต ได้มีตัวแทนสหวิชาชีพ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หมออนามัย และอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 200 คน ได้ออกมาแสดงพลังและอ่านคำแถลงการณ์ 3 ข้อ 


ประกอบด้วย 1.ประชาคมสาธารณสุขภูเก็ตขอสนับสนุนนโยบายปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ในการปฎิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง 2.ทุกหน่วยบริการได้แก่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลป่าตอง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้ง 21 แห่ง รวมทั้งหน่วยบริการและวิชาการ ได้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกะทู้ จะเปิดให้บริการตามปกติ เพื่อให้บริการแก่ประชาชน 


3.โรงพยาบาลทุกแห่งมีการเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมปฎิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์บัญชาการแพทย์ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ภายหลังอ่านแถลงการณ์จบทั้งหมดได้ร่วมกันร้องเพลง และสลายตัวเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มกปปส.ภูเก็ต ที่ตั้งเวทีอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต


จากนั้นในเวลาเดียวกันที่บริเวณประตูทางหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่ม กปปส.ภูเก็ต ก็ได้รวมตัวเพื่อแสดงพลังร่วม Shutdown Phuket ภายใต้การนำของ นายอำนวย คุ้มบ้าน นายสุรทิน เลี่ยนอุดม และนายธีรวุฒิ ศรีตุลารักษ์ แกนนำ กปปส.ภูเก็ต โดยมีมวลมหาประชาชนจำนวนมากจากทุกภาคส่วนออกมาร่วมแสดงพลังไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า ประชาชน ข้าราชการ นักธุรกิจ นักเรียน และนักศึกษา 


พร้อมกันนี้ได้มีการเปิดเวทีประชาชน มีการนำป้ายเขียนข้อความแสดงความคิดเห็นต่างๆ รวมทั้งการสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและระบอบทักษิณ โดยมีการเป่านกหวีดเป็นระยะๆ ทั้งนี้ได้มีการแบ่งมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม


กลุ่มแรกนำโดยนายอำนวย คุ้มบ้าน มีการตั้งขบวนจากหน้าศาลากลาง โดยมีการนำธงชาติขนาดใหญ่ความยาวหลายร้อยเมตรมาร่วมขบวน เคลื่อนไปตามถนนเส้นต่างๆ ภายในตัวเมืองภูเก็ต และ เดินทางไปยังศาลกรมหลวงชุมพรเดชอุดมศักดิ์ที่ปลายแหลมสะพานหิน เพื่ออัญเชิญสารของกรมหลวงชุมพรฯที่ได้สาปแช่งทรราชที่คิดคดทรยศต่อแผ่นดิน หลังจากนั้นก็กลับมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางอีกครั้ง 


ขณะที่มวลชนอีกกลุ่ม นำโดยนายสุรทิน เลี่ยนอุดม นำมวลชนจำนวนหนึ่ง เข้าไปภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งวันนี้ (13 ม.ค.) ได้มีการประกาศหยุดทำงาน มีเพียง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ตอดจนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบที่คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน 


ต่อจากนั้นทางผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ราชการต่างๆ อีกหลายแห่ง เช่น สรรพากรภูเก็ต สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น เพื่อเชิญชวนข้าราชการมาร่วมชุมนุม และแสดงสัญลักษณ์ว่าพลังการชุมนุมของมวลมหาประชาชนที่มีอำนาจเหนือภาครัฐ 


อย่างไรก็ตามในส่วนของเวทีที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ตก็มีมวลชนส่วนหนึ่งได้สลับกันขึ้นปราศรัย และติดตามความเคลื่อนไหวของ กปปส.จากส่วนกลางผ่านสัญญาณดาวเทียม ซึ่งภาพรวมการการชุมนุมของ กปปส.ภูเก็ต เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองเพียงเท่านั้น 


นอกจากนี้ยังมีแถลงการณ์กลุ่มสภานักเรียน เยาวชน นักศึกษาจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสนับสนุนคณะกรรมการ กปปส. โดยระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งประชาธิปไตยทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นประเทศที่มีแต่รอยยิ้มความสุข สามัคคี และมีพระมหากษัตริย์ที่เฝ้าห่วงปวงพสกนิกรชาวไทย แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านั้นกลับกำลังหายไปเรื่อยๆ เพียงเพราะคนบางพวกบางกลุ่มที่ต้องการหาผลประโยชน์ แสวงหาอำนาจโดยมิชอบ ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร สิ่งผิด สิ่งถูก แต่รู้เพียงสิ่งเดียวคือเงิน และลาภยศ 


นี้คือสิ่งที่บ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรอบที่ทำลายประเทศนี้คือ ระบอบทักษิณ ทางกลุ่มฯ จึงยอมไม่ได้ที่จะทนอยู่ใต้ระบอบอับปรีย์แบบนี้พวกเราทนไม่ได้ที่จะให้ลูกหลานมาทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่พวกคนในระบอบทักษิณสร้างไว้ จึงขอเป็นตัวแทนนักเรียน นักศึกษา มาเคลื่อนไหวและแสดงตัวว่าพวกเรารับไม่ได้กับสิ่งที่คนเหล่านั้นกระทำลงไป 


จึงขอแถลงการณ์ว่าคณะนักเรียน เยาวชน นักศึกษาจังหวัดภูเก็ต จะยืนหยัดต่อสู้กับคณะ กปปส.จนกว่าจะได้รับชัยชนะและปฎิรูปประเทศไทย ,การเข้าร่วมการต่อสู้ของพวกเราเป็นไปตามสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และขอให้เยาวชนทุกคนจงลุกขึ้นมาต่อสู้เข้าร่วมกับคณะกปปส.


เพื่อการปฎิรูปประเทศไทย เพราะเยาวชนก็เป็นปวงชนชาวไทย และควรออกมาทำหน้าที่พลเมืองดี พวกเราจะต่อสู้เพื่อปฎิรูปประเทศไทยจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และตราบใดที่พวกเรายังมีลมหายใจ เราจะทำทุกวิถีทางที่จะรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น