จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตำรวจเมืองภูเก็ตรวบนายหน้าชาวพม่าค้ามนุษย์




เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รอง ผบช.ภ.8 รักษาการผบก.ภจว.ภูเก็ต พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 ตลอดจน รอง ผบก.ภจว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม 


ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายอ่าวโม (สัญชาติพม่า) อายุ 49 ปี หมายเลขหนังสือเดินทาง KT371716 ผู้ต้องหาฐานความผิด “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวพ้นจากการถูกจับกุม และค้ามนุษย์ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2557 ต่อเนื่องถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2557 


พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหา ว่า ก่อนการจับกุมในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่พัฒนาแรงงาน ประเทศพม่า ประจำ ประเทศไทย ว่า ให้ช่วยดำเนินการช่วยเหลือชาวพม่า จำนวน 4 คน ที่ถูกนายหน้าชาวพม่าหลอกลวงมาทำงานเป็นลูกเรือประมงอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต โดยไม่ได้รับค่าจ้าง และไม่ให้เดินทางกลับประเทศพม่า แต่หากชาวพม่าทั้ง 4 คน จะกลับประเทศต้องให้ญาตินำเงินมาไถ่ตัวคนละ 20,000 บาท 


ต่อมาญาติของเหยื่อได้รับการติดต่อกับนายหน้าว่าให้นำเงินจำนวน 20,000 บาทมาไถ่ตัวเหยื่อ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ร่วมวางแผนกับเจ้าหน้าที่พัฒนาแรงงานฯ โดยให้ญาติของเหยื่อโทรศัพท์หานายหน้า ทราบชื่อภายหลังคือ นายอ่าวโม่ ซึ่งได้นัดให้ญาติของเหยื่อนำเงินจำนวน 20,000 บาทมาไถ่ถอนตัว โดยนัดให้ไปรอที่สถานีขนส่งภูเก็ต 


จากนั้นจะมีคนไปรับมาพบกับเหยื่อที่แพปลา ป.พิชัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ซึ่งได้มีการถ่ายเอกสารและประจำวันไว้ให้กับญาติของเหยื่อ จากนั้นก็ได้ให้เดินทางไปตามนัด ซึ่งทางนายอ่าวโม่ได้ให้นางสุรีย์ สุทา (ทราบชื่อภายหลัง) ขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงมารับญาติของเหยื่อไปยังจุดนัดพบที่แพปลาดังกล่าว 


เมื่อนายอ่าวโทได้รับเงินเรียบร้อยแล้วก็ได้เรียกเหยื่อทั้ง 4 คน ที่แอบอยู่ใต้สะพานของแพปลาออกมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าควบคุมตัวนายอ่าวโม พร้อมธนบัตรของกลาง และโทรศัพท์ที่ใช้ ในการติดต่อญาติของญาติ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ว่า ถูกจับกุมในข้อหา “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และค้ามนุษย์ 


จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นนายหน้าหลอกลวงเหยื่อทั้ง 4 ราย มาทำงานเป็นลูกเรือประมงจริง โดยไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เหยื่อทั้ง 4 ราย เดินทางกลับประเทศพม่า จนกว่าจะทำงานครบ 6 เดือน โดยได้ติดต่อญาติของเหยื่อที่อยู่ในประเทศพม่า หากต้องการตัวเหยื่อคืนต้องนำเงินมาจ่ายคนละ 20,000 บาท ซึ่งการได้ทำในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในช่วงระยะเวลา 2 ปี โดยตัวผู้ต้องหาเคยทำงานเป็นลูกเรือประมง และได้เข้ามาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตมาเป็นเวลาประมาณ 8 ปีแล้ว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น