จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แจ้งความถูกทำร้าย ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาแจงสื่อเข้าใจผิด



เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2557 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายเวนิช ธัมมะวงษ์ อายุ 38 ปี เจ้าพนักงานธุรการ กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเมืองภูเก็ต สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิงพรทิพย์ ชุมศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ถูกนายสนทรรศน์ พีรดนย์โกเศส รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา ทำร้ายร่างกายขณะนั่งทำงานอยู่ในกองสาธารณสุข เทศบาลตำบลรัษฎา จนได้รับบาดเจ็บและมึนศีรษะ โดยได้นำผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลประกอบการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย


นายเวนิช เปิดเผยรายละเอียดว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (11 มิ.ย.57) ขณะที่นั่งทำงานอยู่ในกองสาธารณสุขฯ นายสนทรรศน์ พีรดนย์โกเศส ซึ่งเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา ได้เดินเข้ามาหาตน และสอบถามเกี่ยวกับโครงการจ้างเหมาเอกชนกวาดรวบรวมขยะและตัดหญ้าในเขตเทศบาลตำบลรัษฎา เนื่องจากตนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตรวจรับงานจ้างดังกล่าวอยู่ ว่ามีปัญหาใดบ้าง ตนจึงบอกว่ามีปัญหาถึงความไม่เรียบร้อยของงานจ้าง และก่อนหน้านี้ตนได้แจ้งให้หัวหน้าทราบแล้ว หลังจากตนอธิบายจบทางรองนายกฯ ก็ได้ใช้กำปั้นทุบที่ท้ายทอยศีรษะตน 1 ครั้ง จนศีรษะล้มฟุบติดกับโต๊ะทำงาน ทำให้เกิดอาการมึนและเจ็บที่ศีรษะ และก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป รองนายกฯ คนดังกล่าว ยังได้พูดด่าทอตนแบบสาดเสียเทเสีย ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความไม่พอใจการทำงานของตนที่เป็นคนตรงไปตรงมา เพราะตนไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับผู้บริหาร หรือผู้ร่วมงานแต่อย่างใด 


“การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสำนักงาน และยังเป็นการกระทำต่อหน้าพนักงานในสำนักงานจำนวนมาก และการแจ้งความดำเนินคดีก็เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนของกฎหมาย แต่หากมีการไกล่เกลี่ยหรือพูดคุย ตนก็พร้อมที่จะคุยด้วย เพราะว่าไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงแต่อย่างใด โดยมองว่าอาจจะเป็นแค่การสั่งสอน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัยอยู่บ้าง เนื่องจากยังจะต้องทำงานที่เทศบาลตำบลรัษฎา อย่างไรก็ตามตนจะเดินเรื่องขอย้ายตัวเองไปอยู่ที่ท้องถิ่นจังหวัดชั่วคราวหรืออาจจะดำเนินการขอย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่น เพื่อความปลอดภัย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก” นายเวนิชกล่าว 


อย่างก็ตามต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน( 12 มิ.ย.57) ที่สำนักงานเทศบาลตำบลรัษฎา นายสนทรรศน์ พีรดนย์โกเศส รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา พร้อมด้วยที่ปรึกษาฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า น่าจะเป็นการเข้าใจผิด โดยวันที่เกิดเหตุนั้น ตนได้เข้าไปยังห้องทำงานของข้าราชการคนดังกล่าว เพื่อจะเข้าไปพูดคุยและตักเตือนเรื่องของการทำงาน ระหว่างผู้บังคับบัญชาตักเตือนลูกน้อง ซึ่งอาจจะมีการตีไหล่ตบไหล่ปกติ ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมกลายมาเป็นตนทำร้ายร่างกาย ทั้งๆ ที่สามารถตรวจเช็คได้เลยว่า ไม่มีบาดแผลใด ๆ ไม่เข้าใจว่าข่าวออกไปในลักษณะว่าตนทำร้ายร่างกายได้อย่างไร 


“ปกติการทำงานของตนกับลูกน้องก็จะมีความเป็นกันเอง จึงอยากชี้แจงเพื่อความเข้าใจ และตนในฐานะนักการเมืองกับอีกฝั่ง คือ ข้าราชการ โดยนักการเมืองจะมอบนโยบายให้ราชการทำงาน แต่อาจจะมีบ้างเมื่อข้าราชการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และเกิดการต่อต้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำงาน แต่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ คงไม่มีปัญหาต่อไป” 

นายสนทรรศน์ กล่าวยืนยันว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับข้าราชการคนดังกล่าว โดยตนอยู่ในตำแหน่งรองนายกฯ มาเป็นเวลา 2 ปี ขณะที่ข้าราชการคนดังกล่าวพึ่งมารับตำแหน่งได้ประมาณปีเศษ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด เพราะไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ทางนายกเทศมนตรีได้มีการเรียกตนและระดับหัวหน้างานมาพูดคุย และนโยบายของนายกฯ เน้นความปรองดอง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน และหลังจากนี้หากจะต้องทำงานร่วมกันก็ไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน 


นอกจากนี้นายสนทรรศน์ ยังกล่าวอีกว่า การทำงานภายในเทศบาลตำบลรัษฎานั้นมีปัญหามานานแล้ว และเป็นที่ทราบกันดี การบริหารจัดการแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ ไม่มีความต่อเนื่อง ซึ่งในสมัยบริหารนี้ ทางฝ่ายการเมืองนั้นมอบนโยบาย และไม่ก้าวก่ายข้าราชการ แต่บางสิ่งบางอย่างก็จำเป็นที่จะต้องมีการชี้แนะบ้าง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกันต้องเข้าใจกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น