จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

หลักเขตโผล่ชายหาดกะตะน้อยกำนันเรียกร้องตรวจสอบ

ที่ดินภูเก็ตแจงหลักเขตโผล่ชายหาดกะตะน้อยเป็นหลักเขตเก่า 
ตรวจการรังวัดโฉนดที่ดินใกล้เคียงไม่พบเลขและอักษรดังกล่าว 
กำนันกะรนเรียกร้องตรวจสอบทั้งหลักเขต-ก้อนหินโผล่ชายหาด 


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ได้มีการแชร์ข้อความผ่านทางกลุ่มไลน์ต่างๆ ว่า หินลอยน้ำผุดเต็มหาดกะตะน้อย พร้อมหลักโฉนดหรืออะไรก็ไม่ทราบผุดขึ้นโชว์ประจานเมืองภูเก็ตนี่หรือแผ่นดินที่เงียบสงบที่ข้าราชการบนเกาะแห่งนี้ทำงานกันอย่างขยันจนชาวบ้านจะอดตายกันหมดพร้อม” และมีภาพประกอบโดยเป็นแท่งคอนกรีตคล้ายหลักเขตที่ดินปักอยู่บนหาดทรายชายทะเล หลักเขตจำนวน 1 หลัก โผล่พ้นทรายบริเวณชายหาดกะตะน้อย ต.กะรน ภูเก็ต จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้อย่างไร 


จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่มีการระบุไว้ในภาพถ่าย ของนายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน และนายตฤณ ทิพย์มงคล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านกะตะ-กะตะน้อย พบเป็นแนวชายหาดยาว มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำจำนวนหนึ่งท่ามกลางคลื่นลมแรง สังเกตพบริมชายหาดซึ่งติดกับแนวเขตกำแพงของโรงแรมที่ตั้งอยู่ติดชายหาดพบก้อนหินขนาดต่างๆ โผล่พ้นทรายขึ้นมาเป็นระยะๆ โดยไม่พบหลักเขตที่ดินที่มีการเผยแพร่แต่อย่างใด สอบถามพนักงานบีชการ์ดที่อยู่บริเวณชายหาด ทราบว่า ได้มีทางเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตเข้ามาตรวจสอบและนำหลักเขตดังกล่าวไปแล้ว 


นายวัชรินทร์ เจตนาวณิชย์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งภาพหลักเขตปักอยู่บริเวณหาดทรายของชายหาดกะตะน้อยว่า หลังทราบเรื่องก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรังวัดลงไปตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมนำต้นร่างแผนที่และรายการรังวัดบริเวณใกล้เคียงตามตำแหน่งดังกล่าวไปประกอบด้วย


พบหลักเขตเก่าจำนวน 1 หลักถูกนำไปตั้งไว้บนกำแพงของโรงแรมที่อยู่บริเวณติดกับชายหาด โดยไม่พบว่าตั้งอยู่บนหาดทรายชายทะเลตามที่มีการถ่ายภาพปรากฏ และตรวจสอบตามรายการรังวัดโฉนดที่ดินแปลงใกล้เคียงกับตำแหน่งที่พบหลักเขตดังกล่าว ไม่พบหลักเขตหมายเลขและหมวดอักษรดังกล่าวในรายการรังวัดหรือต้นร่างการรังวัดของที่ดินในบริเวณใกล้เคียงแต่อย่างใด 


ทั้งนี้ทางกลุ่มงานวิชาการที่ดินได้สรุปความเห็นว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการที่มีบุคคลหรือนักท่องเที่ยวนำหลักเขตที่ดินเก่า ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหมายเลขหลักเขตดังกล่าวในตำแหน่งที่ดินใกล้เคียงหรือเป็นหลักเขตที่ดินที่สูญหาย หรือไม่ใช้แล้ว โดยอาจถูกคลื่นซัดมาและมีการพบในบริเวณใกล้เคียง กระทั่งมีผู้นำไปตั้งไว้บนหาดทรายชายทะเลด้วยความสนุกคึกคะนอง หรือมีวัตถุประสงค์อื่นใดซึ่งไม่ทราบได้ จนมีผู้ไปพบและถ่ายภาพแชร์ต่อๆ กันมา 


ซึ่งจากการตรวจสอบและหลักฐานยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานที่ดินภูเก็ตแต่อย่างใด ทั้งนี้การที่มีภาพหลักเขตที่ดินเก่าดังกล่าวปรากฏออกไปอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ามีการออกโฉนดในทะเล ซึ่งความจริงไม่ใช่ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำหลักเขตดังกล่าวมาเก็บไว้ที่สำนักงานที่ดินภูเก็ตแล้ว นายวัชรินทร์กล่าว 


ขณะที่นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลจากโซเซียลว่ามีหลักหมุดโผล่ขึ้นบริเวณพื้นที่ชายหาดทรายกะตะน้อย ซึ่งยืนยันได้ว่าในอดีตที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นหลักหมุดในบริเวณนี้มาก่อน เพราะในวัยเด็กตนใช้เส้นทางหน้าชายหาดเดินไปยังสวนซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง รวมถึงหินขนาดต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมาก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน คงไม่ใช่หินที่ลอยน้ำมาอย่างแน่นอน เพราะชายหาดแห่งนี้เป็นชายหาดที่สวยงาม 


และพึ่งเห็นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมเนื่องจากน้ำทะเลจะดึงทรายจากชายหาดลงไป แต่เมื่อถึงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีทรายก็จะถูกพัดกลับขึ้นมาปิดจนทำให้มองไม่เห็นหินที่ซ่อนอยู่ ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อลงมาตรวจทั้งสอบข้อเท็จจริงทั้งเรื่องของหลักเขต และก้อนหินขนาดต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นทรายด้วย
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น