จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560

ตรวจยึดสัตว์ทะเลหวงห้ามลักลอบส่งขายกรุงเทพฯ

ตรวจยึดสัตว์ทะเลหวงห้ามลักลอบส่งขายกรุงเทพฯ 


เมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม 2560 ที่ด่านตรวจภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ คัมภีระ สวป. นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) นายสมนึก บุญใหญ่ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดพังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจฯ 


ร่วมตรวจยึดสัตว์ทะเลหวงห้ามหลายชนิดที่ถูกลักลอบขนส่งทางรถโดยสารประจำทาง ภูเก็ต-กรุงเทพมหานคร โดยตรวจยึดได้ขณะรถโดยสารคันดังกล่าวกำลังแล่นผ่านด่านตรวจ มีปลายทางกรุงเทพมหานคร โดยบรรจุอยู่ในกล่องโฟมขนาดใหญ่ จำนวน 2 กล่อง ซึ่งถูกวางอยู่ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ 


จากการตรวจสอบภายในกล่องโฟม จำนวน 2 กล่อง พบสัตว์ทะเลหวงห้ามจำนวน 32 ตัว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ประกอบด้วย ปลาสวยงามคละชนิดจำนวน 9 ตัว กุ้งจำนวน 3 ตัว ปูเสฉวน/หอยไม่ทราบชนิดจำนวน 15 ตัว จึงได้ลงบันทึกการตรวจยึดไว้กับพนักงานสอบสวน ก่อนนำส่งมอบให้ผู้เชี่ยวชาญของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ตนำไปจำเเนกชนิด เเละทำการพักฟื้นก่อนทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป 


พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย กล่าวว่า จากการสุ่มตรวจรถโดยสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจฯ โดยตรวจสอบภายในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถพบลังโฟมดังกล่าววาอยู่ จึงเปิดดูภายใน พบถุงพลาสติกซึ่งบรรจุสัตว์ทะเลหลายชนิด และเชื่อว่าน่าจะเป็นสัตว์สงวนหวงห้าม 


สอบถามพนักงานบนรถทราบว่า กล่องดังกล่าวมีผู้นำมาฝากให้นำส่งปลายทางที่กรุงเทพมหานคร จึงแจ้งทำการตรวจยึดและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ สบทช.6 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ มาทำการตรวจยึด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หลังจากนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนที่มาที่ไปของกล่องพัสดุดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อหาตัวผู้ส่งและผู้รับ หากพบก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


ด้านนายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้นำสัตว์ทะเลที่ตรวจยึดได้ส่งมอบต่อให้กับผู้เชี่ยวชาญของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต เพื่อนำไปจำเเนกชนิด เนื่องบางตัวเป็นสัตว์ทะเลหายาก มีชื่อเฉพาะ จากนั้นจะทำการพักฟื้นในบ่ออนุบาลเพื่อให้แข็งแรงและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป ซึ่งการตรวจยึดสัตว์ทะเลได้ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะสามารถนำกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อีกครั้ง 


โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการกวดขันจับกลุ่มผู้กระทำผิดจากต้นทางคือ ในทะเลแต่โอกาสที่จะจับกุมนั้นทำได้ยาก เนื่องจากผู้กระทำความผิดมักทิ้งหลักฐานลงน้ำเมื่อเจ้าหน้าที่นำเรือเข้าตรวจสอบ ซึ่งสัตว์ทะเลเหล่านี้มีความเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์ของปะการังในท้องทะเล หากถูกจับขึ้นมาเป็นจำนวนมากจะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของปะการังในระยะยาว ในส่วนของมูลค่าสัตว์ทะเลเหล่านี้เบื้องต้น หากคำนวนมูลค่าจากต้นทางน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท แต่หากไปถึงปลายทางและมีการส่งต่อไปยังบุคคลที่สามอาจมีมูลค่าสูงถึง 50,000 บาท ทั้งนี้จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาที่มาที่ไป เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามประกาศของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป นายสุชาติกล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น