จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังตรวจค้นทั่วเมืองภูเก็ต

ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังตรวจค้นทั่วเมืองภูเก็ต 
กวาดล้างคนผิวสีอยู่เกินกำหนด - ยาเสพติด และอื่นๆ 


เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2560 ที่ลานหน้ากองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 (สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต) พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจน้ำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหารเรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่สรรพากร เป็นต้น 


แถลงผลการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลซึ่งสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกับเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลนอกกฎหมายในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ การค้าประเวณี ยาเสพติด การเรียกค่าคุ้มครอง ซึ่งโยงการฟอกเงินและเกี่ยวข้องอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยและสร้างความเป็นธรรมให้กับนักท่องเที่ยว ภายใต้ยุทธการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว @ ภูเก็ต 


สำหรับการสนธิกำลังในครั้งนี้ สืบเนื่องจากหน่วยงานด้านความมั่นคงในภาครัฐได้มีการเข้มงวดในการสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่ายังมีการร้องเรียนถึงการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และมีการตั้งกลุ่มแก็งในพื้นที่อยู่บ้าง เช่น การเอารัดเอาเปรียบของการใช้บริการรถสาธารณะ กลุ่มต่างชาติที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด (Over Stay) แฝงตัวสร้างอิทธิพลในพื้นที่ ตั้งกลุ่มแก็งมั่วสุมและจำหน่ายยาเสพติด รวมถึงการก่ออาชญากรรมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นอย่างมาก 


จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุดในจังหวัดภูเก็ต อาทิ สถานประกอบการเรือท่องเที่ยว รถแท็กซี่ สถานประกอบการสุขภาพ สถานประกอบการสอนดำน้ำที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน สปา อพาร์ทเม้นต์ เป็นต้น เพื่อกวาดล้างอาชญากรรม ยาพติด สถานประกอบการสุขภาพที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่เกินกำหนด 


จากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 28 คน ประกอบด้วย ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 4 ราย ผู้ต้องหา 4 คน เป็นนักท่องเที่ยวผิวสีสัญชาติเคเมอรูน, อินเดีย, อัลจีเรียและไนจีเรีย, ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 4 ราย สัญชาติยูกันดา, มีการจับกุมตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ให้โทษ จำนวน 11ราย ผู้ต้องหา 11 คน, พ.ร.บ.อาวุธปืน ข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกรสุนปืนโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางอาวุธปืน 9 มม. และเครื่องกระสุนปืน 11 นัด อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด, 


ตรวจค้นสถานประกอบการดำน้ำ/เรือ ผู้ต้องหา 6 คน มีความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ ข้อหาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ราย, ข้อหา ไม่จัดทำประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยว 2 ราย, พ.ร.บ.การเดินเรือ ข้อหา ใช้เรือผิดเงื่อนไข หรือข้อกำหนดในใบอนุญาตทำงาน จำนวน 1 คน, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว ข้อหา ไม่พกพาใบอนุญาตทำงานขณะตรวจสอบ จำนวน 1ราย และตรวจค้นสถานประกอบการพยาบาล จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ข้อหาเป็นยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ยาไม่มีเลขที่ อย. พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาฉีด จำนวน 1,193 ขวด อาหารเสริม จำนวน 269 ขวด อาหารเสริม จำนวน 210 กระปุก(ลักษณะเป็นแคปซูล) และเครื่องสำอาง 18 หลอด 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น