จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กกต.ภูเก็ต มอบนโยบายชุดเฉพาะกิจ

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 54 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่ชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าว ชุดปฏิบัติการป้องปราม และชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2554 โดยมีนายกิติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผอ.กกต.จังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ พ.ต.อ.พีระยุทธ การเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ชุดเข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ นายตรี อัครเดชา ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง กกต.ได้มีการมอบนโยบายให้กับชุดเฉพาะกิจของ กกต.จังหวัดภูเก็ต ไปครึ่งหนึ่งแล้ว การปฏิบัติหน้าที่ก็รายงานผลเข้ามายัง กกต.โดยตลอด ส่วนการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งก็จะเป็นช่วงที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นการที่เจ้าหน้าที่ชุดต่างๆ จะลงไปปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อสืบสวนหาข่าว และไปดำเนินการในเรื่องที่คิดว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า โดยได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่โดยเข้มแข็งภายในกรอบของกฎหมาย ให้เป็นที่พึ่งของคนทั่ว ๆ ไป แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาก็จะรับผิดชอบร่วมกัน
นายตรี กล่าวต่อไปถึงเรื่องของการขายหวยผู้แทน ซึ่งในขณะนี้ มีร้องเรียนเข้ามาหลายจุด ในพื้นที่เลือกตั้ง 2 เขต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนได้รับแจ้งยืนยันมาในขณะนี้ ว่าบริเวณชุมชนสะพานกอจ๊าน ชุมชนสะพานร่วม 1, 2 ที่เกาะสิเหร่ หรือซอยชุมชนแสนสุข ที่เริ่มดำเนินการขายหวยผู้แทน ก็ได้บอกทางชุดเฉพาะกิจทุกชุด ให้ไปดูแลว่าข่าวที่ได้มาเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน และเมื่อลงไปปฏิบัติในพื้นที่แล้ว พบว่าเป็นข่าวจริง มีการปฏิบัติจริง ก็ให้มีการปฏิบัติหน้าที่ให้เข้มแข็ง
ขณะที่ในเรื่องของการซื้อบัตรประจำตัวประชาชน นายตรี กล่าวว่า ในการซื้อขายบัตรประจำตัวประชาชน มีวิธีการโดยการจดบัตร จดรายชื่อบัตรประจำตัวประชาชน และบางกรณีก็จะเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปแล้วก็ให้เงินมัดจำ โดยช่วงแรกอาจจะให้ 500 หรือ 1,000 บาทก่อน แล้วก็จะคืนบัตรประจำตัวประชาชนให้ในวันไปใช้สิทธิ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งผู้สมัครสามารถจะเช็คได้ว่าผลคะแนนที่ออกมาสมดุลกันมากน้อยแค่ไหนกับที่จ่ายไป ซึ่งก็จะต่างกับการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเอาบัตรทั้งหมดไปนับที่รวมคะแนน ที่ทาง กกต.กำหนดไว้ เมื่อซื้อสิทธิไปแล้วจะไม่สามารถรู้ได้ว่าหน่วยนั้น ที่พี่น้องประชาชนที่เอาเงินไปแล้วจะลงคะแนนให้หรือไม่อย่างไร แต่การเลือกตั้ง ส.ส.นับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นคนที่ซื้อสิทธิไปแล้วเขาสามารถจะคำนวณ ได้ว่าเงินที่จ่ายไปกับคะแนนที่เขาได้รับสมดุลกันหรือไม่ เงินที่ใช้ในการวางมัดจำซื้อบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อไปใช้สิทธิแล้วถ้าคะแนนเป็นไปตามเป้าก็จะมีการจ่ายครั้งที่สอง โดยจะมีหัวคะแนนตามไปจ่ายตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก
"ในเรื่องของการซื้อบัตรประจำตัวประชาชน นั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ ส.ส.ทางภาคอีสานทำกันมาโดยตลอด แล้วตอนนี้มาระบาดที่จังหวัดภูเก็ตของเรา ถ้าย้อนหลังไปจริงๆ แล้ว ภูเก็ตถือว่าการเลือกตั้งทุกครั้งเกือบจะเรียบร้อยสมบูรณ์ การซื้อสิทธิขายเสียงจะไม่ระบาดเหมือนกับครั้งนี้ จากที่ได้ฟังข่าวบางกระแสมา หรือแม้แต่หวยใต้ดิน ที่ผมได้กล่าวไปแล้วหลายครั้ง ว่าจะได้ทั้งคนที่เป็นตัวเต็ง และคนที่เป็นมวยรองด้วย ก็เพิ่งจะเริ่มมาระบาดในที่จังหวัดภูเก็ต" นายตรี กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น