จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คนร้ายตัดตู้เอทีเอ็มกวาดเงินไปกว่า 1.6 ล้านบาท



เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 ร.ต.อ.ราชัย พรรณไวย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่บริษัท กรุงเทพเซอร์เว๊กซ์ จำกัดว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดประตูด้านข้างตู้เอทีเอ็ม ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาท่าเรือโบ๊ทลากูน ภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง ภูเก็ต เข้าโจรกรรมเงินสดไปจากตู้เอทีเอ็ม ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย 

 

หลังรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แก้ววาที รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต 


ที่เกิดเหตุอยู่ปากทางเข้าท่าเรือสำราญ หรือท่าเรือท่องเที่ยว ของโบ๊ทลากูน โดยได้มีการก่อสร้างเป็นอาคารสำหรับติดตั้งตู้เอทีเอ็มจำนวน 2 ตู้ ซึ่งมีประตูเปิด – ปิด เพื่อเติมเงินอยู่ในอาคาร ซึ่งเป็นด้านหลังของตู้ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง ก็พบกับนายวีระ ทองเกลา อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพนักงานขนเงินของบริษัท กรุงเทพเซอร์เอ็กซ์ จำกัด ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบประตูไม้ขนาดใหญ่ของห้อง สายยูคล้องกุญแจถูกตัดด้วยเครื่องตัดเหล็กชนิดแก๊ส 


และเมื่อเปิดประตูไม้ ก็พบว่าจะมีประตูเหล็กอีกชั้น และสายยูคล้องกุญแจก็ถูกตัดด้วยเครื่องตัดเหล็กชนิดแก๊สเช่นกัน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในด้านหลังตู้เอทีเอ็ม และตรวจสอบสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้ภายในห้องพบว่าถูกคนร้ายตัดขาด นอกจากนี้คนร้ายยังได้ใช้เครื่องตัดเหล็กชนิดแก๊ส ตัดตู้เก็บเงิน ซึ่งพบทั้งแผ่นเหล็กประมาณ 1 ตารางฟุต และเศษเหล็กอีกประมาณ 2 – 3 ชิ้น ตกอยู่ที่พื้น


เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในกล่องเก็บเงินจำนวน 4 กล่อง ประกอบด้วย ธนบัตรกล่องละ 100 บาท จำนวน 1 กล่อง ธนบัตรกล่องละ 500 บาท จำนวน 1 กล่อง ธนบัตรกล่องละ 1,000 บาท จำนวน 2 กล่อง ซึ่งคนร้ายได้เงินไปประมาณ 1,659,100 บาท และมีธนบัตรที่เหลือติดอยู่ในตู้ประมาณ 9,700 บาท โดยธนบัตรมีรอยไฟไหม้เล็กน้อย ส่วนธนบัตรที่เหลืออีกจำนวนหนึ่งถูกไฟไหม้เป็นพลาสติกนับจำนวนไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บหลักฐานต่างๆ ที่อยู่ภายในบริเวณ พร้อมทั้งจัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุ 


ทั้งนี้จากการสอบสวนนายวีระ ทองเกลา ทราบว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของบริษัท กรุงเทพเซอร์เว๊กซ์ จำกัด ได้เดินทางเพื่อมาเติมเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ก็พบว่าประตูห้องดังกล่าว สายยูที่สำหรับล๊อคกุญแจ ถูกคนร้ายตัดจนขาด และเมื่อเปิดประตูไม้เข้าไปก็พบว่าสายยูประตูเหล็กก็โดนตัดด้วยเช่นกัน จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ 


นายวีระ ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ที่ศูนย์ข้อมูลทราบว่า ตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 มีการเคลื่อนไหวหลังสุดเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 โดยยอดเงินคงเหลือที่อยู่ในตู้เอทีเอ็มประมาณ 1,659,100 ล้านบาท จากนั้นก็ไม่มีการบันทึกการกดเงินจากลูกค้าอีกเลย จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ ก็พบว่าตู้เอทีเอ็มถูกคนร้ายโจรกรรมเงินไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้หากล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อมาตรวจสอบ และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


ด้านพ.ต.อรุณ แก้ววาที รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า จากพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายใช้การตัดสายยูประตูชั้นนอกและชั้นในจนเปิดเข้าไปภายในห้องที่สร้างไว้เพื่อครอบเครื่องเอทีเอ็ม จากนั้นคนร้ายได้ใช้เครื่องตัดเหล็กตัดตู้เซฟที่เป็นเหล็กหนาประมาณ 1 นิ้ว จนเปิดออกและนำกล่องเงินทั้งหมดออกจากตู้เอทีเอ็ม โดยมีการตัดสัญญาณเตือนภัยก่อนหน้าที่จะลงมือตัดทุกอย่าง ซึ่งมีเงินสูญหายไปกว่า 1.6 ล้านบาท อย่างไรก็ดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น