จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลูกหนี้หัวใสอ้างขอไถ่ทองคำ 2 บาทคืนก่อนเชิดหนี



เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ร.ต.ท.วิธาร เอี่ยมนิมิตร รอง.สวป.สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนางเบญจพร วัชรัตน์สิริยุทธ์ อายุ 54 ปีเจ้าของร้านทองทวีชัย เลขที่ 18 ถนนระนอง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ว่ามีคนร้ายเชิดทองรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาทไปจากร้าน หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมือง ภูเก็ต 


ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นร้านซื้อขายทองคำ ตั้งอยู่ริมถนนถนนระนอง อ.เมืองภูเก็ต บริเวณเคาร์เตอร์ตู้โชว์ทองคำรูปพรรณ มีนางเบญจพร เจ้าของร้าน ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ และบริเวณใกล้กับตู้โชว์ดังกล่าว พบหญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ทราบชื่อคือ นางเตือนใจ กริชคารม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/74 หมู่ 7 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรนั่งก้มหน้าไม่ยอมพูดจากับใคร 


จากการสอบสวนทราบว่านางเตือนใจ เป็นลูกค้าที่มักคุ้นของร้านทองดังกล่าว ที่ผ่านมามักจะมาซื้อและจำนำทองคำเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุนางเตือนใจ ได้มาที่ร้านกับเพื่อน ทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อ ติ๊ก รูปร่างเตี้ย ผิวดำ อายุราว 45 ปี ซึ่งได้ยืมสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทของนางเตือนใจมาจำนำไว้กับทางร้านฯ ในราคา 42,200 บาท เมื่อหลายเดือนก่อน และที่ผ่านมานางเตือนใจ จะมาต่อดอกกับทางร้านเป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้โทรมาแจ้งกับทางร้านทองว่าจะมาไถ่สร้อยคอทองคำที่จำนำไว้ โดยได้พานางติ๊กซึ่งเป็นผู้นำสร้อยคอทองคำมาจำนำ 


เมื่อมาถึงร้านก็ได้มีการพูดคุยกับพนักงานของร้าน และได้นำสร้อยคอทองคำที่จำนำไว้ส่งคืนให้กับนางติ๊ก ต่อหน้านางเตือนใจ โดยนางติ๊กได้สวมสร้อยคอทันที โดยบอกกับนางเตือนใจว่า จะออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้ๆ กับร้านทอง ให้นั่งรออยู่ในร้านก่อน เวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.นางติ๊กก็ไม่ได้กลับมาที่ร้านทองอีก ด้วยเห็นท่าไม่ดีทางเจ้าของร้านทองฯ จึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำตัวนางเตือนใจไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักทรัพย์ของนางติ๊กในครั้งนี้หรือไม่ อย่างไร พร้อมสืบสวนหาชื่อนามสกุลจริงและที่อยู่ของนางติ๊ก เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น