จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ฉก.ยาเสพติดภูธรภูเก็ต จับยาบ้า 8,000 เม็ด




เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 บริเวณชั้น 1 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว และ พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย และเจ้าหน้าที่สืบสวนเฉพาะกิจ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายทิวาศักดิ์ หรือแช่ม จันทร์นิยม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 หมู่ที่ 3 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 


พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น SR 400 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนำส่งพนังกานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จับกุมได้เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณริมถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ตก่อนถึงโค้งคอเอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 


สำหรับการจับกุมครั้งนี้เนื่องจาก ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตออกแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธ และยาเสพติด ตามนโยบายของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.สันติ ชัยนิราภัย ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า บริเวณริมถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ตก่อนถึงโค้งคอเอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำ จอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น SR 400 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นั่งอยู่ริมถนนข้างทาง มีพฤติกรรมท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฉพาะกิจฯ ดังกล่าว จึงได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ


และเมื่อถึงที่เกิดเหตุพบนายทิวาศักดิ์ หรือแช่มจันทร์นิยม อายุ 30 ปีอยู่บ้านเลขที่ 142/1 หมู่ที่3 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน ปปส.ขอตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง กำอยู่ในมือ ของกลางยาบ้า จำนวน 4 มัด (40) ถุง รวมทั้งหมด 8,000 เม็ดอยู่ในถุงผ้าสะพายสีฟ้า ที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่และปิดทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีดำทับ 


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัว พร้อมนำของกลางมายังกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อสอบสวนขยายผล โดยผู้ถูกจับกุม ให้การรับสารภาพว่า เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วประมาณ 2 ปี และเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายกิตติชัย หรือรน อ่อนเพ็ชรคง โทรศัพท์ติดต่อมาหาตน และได้ว่าจ้างให้นำยาบ้าจำนวนดังกล่าวไปส่งให้นายเสือ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล และได้โอนเงินเข้าบัญชีของน้องชายของตน จำนวน 5,000 บาท เป็นค่าจ้าง 


จากนั้นให้ตนไปรับยาบ้าที่บริเวณริมถนนสายทุ่งสง ที่ใส่ถุงผ้าไว้ จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหยิบยาบ้าที่บริเวณข้างถนน แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ นำยาบ้าผ่านด่านภูเก็ต บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จนมาถึงจุดที่ถูกจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาเกิดโซ่หลุดเข้าไปเบียดกับเฟืองสเตอร์ ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ จึงจอดรถนั่งรอเพื่อนมารับ และขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นและจับกุม ดังกล่าว 


พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นเครือข่ายที่มีการสั่งยามาจากเรือนจำจังหวัดแห่งหนึ่งที่ให้ไปรับยาบ้าที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งยาบ้าจำนวนดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นหากมีหลุดรอดไปได้ และมีการนำไปจำหน่ายก็จะประเมินค่าไม่ได้โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายชื่อผู้ที่เชื่อมโยงกับขบวนการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดนครศรีธรรมราช 


ส่วนของผู้ต้องหาอีกคนนั้นก็ได้สั่งการให้ติดตามตัวมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ในฐานะที่ตนมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่า จะมีการดำเนินการกับการจับกุมผู้ค้าและผู้เสพอย่างจริงจัง เข้มแข็ง และต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้สั่งให้สถานตำรวจในส่งกัดได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจด้านการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะด้วย เพื่อจะได้ปราบปรามให้ยาเสพติดหมดสิ้นไป 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น