จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ตยืนหนังสือถึงผู้ว่าฯ




เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2557 ที่บริเวณสนามหญ้า หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต เครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต กว่า 200 คน จากสมาชิกกว่า 10,000 ครอบครัว 20 ชุมชน ในจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมารวมตัว เพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังผู้ว่าราชการจังหวัดที่เดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และร่วมให้ข้อเท็จจริงในเรื่องฉโนนดชุมชนในแต่ละชุมชน 


ต่อนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขอให้ทางกลุ่มเครือข่ายส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อเข้าร่วมประชุมภายในห้องประชุมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประเจียด ธรรมอักษร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมืองภูเก็ต รักษาการปลัดจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต จ่าจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


โดยปัญหาหลักของเครือข่ายฯ ทั้ง 20 ชุมชน จะเป็นปัญหาที่ใกล้เคียงกัน คือ ปัญหาที่อยู่อาศัย ซึ่งบางชุมชนอยู่ในที่ป่าชายเลน ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณะ และบางชุมชนมีคดีความกับเอกชนในเรื่องของที่ดินที่อยู่อาศัย เช่น ชุมชนชาวไทยไหม ที่หาดราไวย์ เป็นต้น ปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากไม่มีบ้านเลขที่เพราะตั้งบ้านอยู่ในที่สาธารณะ ไฟฟ้าไม่สามารถที่จะดำเนินการให้ได้ ต้องใช้ไฟฟ้าพ่วงทำให้ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่สูงมาก ไม่มีน้ำประปาใช้ การออกโฉนดชุมชน ที่ขณะนี้ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน หรือ ปจช.จำนวน 11 ชุมชน จากที่เสนอทั้งหมด 17 ชุมชน เป็นต้น 


ด้านนายธีระ พุ่มช่วย ประธานชุมชนโหนทรายทอง ตำบลรัษฏา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ชุนชนโหนทรายทองนั้นได้มีประชาชนเข้ามาอาศัยตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2510 ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว 212 ไร่ ต่อมาชุมชนได้กันพื้นที่ป่าเอาไว้และจะอนุญาตให้สมาชิกในชุมชนสามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ 101 ไร่ 2 ตารางวาง แต่ละครัวเรือนก็มีที่ครอบครองได้ครอบครัวละ หน้ากว้าง 20 เมตร ความยาว 30 เมตร ซึ่งเพียงพอในการที่จะรองรับครอบครัวขยาย 


นอกจากนี้ทางชุมชนยังกันพื้นที่ไว้สำหรับอนาคตหากมีจำนวนประชากรในชุมชนเพิ่มขึ้น อีก จำนวน 1 ไร่ นายธีระ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางชุมชนได้มีการจัดการตั้งคณะกรรมการชุมชน เพื่อที่จะเข้ามาบริหารจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในชุมชน และไม่ให้เกิดการบุกรุป่า หากผู้ใดฝ่าฝืนก็จะเชิญออกนอกชุมชน ปัจจุบันนี้มีชาวภูเก็ตดั้งเดิมอาศัยอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือจะเป็นบุคคลต่างถิ่นที่ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาหลายสิบปี 


ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินเป็นปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องการแก้ไขลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อให้คนยากคนจน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ซึ่งทางเครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ตได้มาพบและยื่นหนังสือ เพื่อให้ทางจังหวัดได้ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนใน 20 ชุมชน เพราะที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเท่าที่ควร 


ซึ่งในวันนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับอำเภอไปประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ที่เดือนร้อน แล้วทำรายงานสถานภาพรายละเอียดของแต่ละชุมชนของแต่ละอำเภอ มาประชุมร่วมกันระดับจังหวัดในวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ โดยในระดับจังหวัดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม เช่น ตัวแทนชุมชน กอ.รมน. ผู้แทนจากทหารบกและกองทัพเรือภาคที่ 3 เป็นต้น เพื่อมาประชุมร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น