เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 พ.ต.ต.ราชันย์ พรรณไวย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต บริเวณริมถนนรัษฎานุสรณ์ ด้านข้างธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกราชภัฎภูเก็ต ขอให้มาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย
พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.สันติ นิรมัย ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สพฐ.จ.ภูเก็ต กำลังชุดสืบสวน-สพฐ.-แพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกก่อนถึงเมืองภูเก็ต บริเวณริมถนนใกล้เสาไฟฟ้า พบร่างชายสูงอายุสวมเสื้อยืดสีเหลือง และสวมเสื้อกั๊กวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสีส้ม ด้านหลังสกรีนคำว่า “สถานีขนส่ง 2” หมายเลข 12 นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่รองเท้าแตะสีฟ้าขาวนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด โดยมีเด็กชายสวมเสื้อกีฬาสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่รองเท้าแตะสีแดงห้อยกระเป๋าเงินที่ข้างตัวนั่งร้องไห้กอดศพชายดังกล่าวอยู่ใกล้ๆ โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1 กข 6735 ภูเก็ตจอดอยู่ไม่ห่าง
ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายเฉลียว ปิยภานีกุล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/251 หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างประจำอยู่ที่ บขส.ภูเก็ต 2 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กม.ส่วนเด็กชายที่นั่งและยืนร่ำไห้อยู่ที่ศพนายเฉลียวเป็นบุตรชายวัย 12 ขวบ ชื่อเล่น”น้องเค” ขณะเดียวกันมีนางกัลยา ปิยภานีกุล อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตายขับรถมาประสบเหตุถึงกับร่ำไห้วิ่งเข้ากอดศพ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันจับตัวไว้ก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการรอแพทย์ชันสูตรและหาหลักฐานต่างๆ ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต
ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงริมถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอกตกอยู่ที่พื้นถนนห่างจากศพราว 1 เมตร และพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม.ที่บริเวณผนังของแมนชั่นใกล้จุดเกิดเหตุอีกจำนวน 2 หัวฝังอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรศพพบรูกระสุนที่บริเวณหน้าผากเหนือคิ้วซ้ายจำนวน 1 นัด กระสุนฝังในศีรษะ ตามร่างกายไม่พบรูกระสุนปืนแต่อย่างใด จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้สี่แยกมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตและบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 1 คนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน สวมเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้าอ่อน สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ และนายเฉลี่ยได้ขับรถจักรยานยนต์ซึ่งมีบุตรชายซ้อนท้ายมาจากบ้านกูกู้ ถ.รัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต และเป็นช่วงที่สัญญาณจราจรไฟแดง และทั้งคู่ก็ได้หยุดรถ
จากนั้นทั้งสองคนก็ลงจากรถและเดินเข้ามาหากัน โดยได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างอย่างในลักษณะของการโต้เถียงกัน
จากนั้นคนร้ายได้ชักอาวุธปืนที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอวออกมาจ่อยิงนายเฉลียวทันที กระสุนพุ่งเข้าที่หน้าผากเหนือคิ้วซ้าย ทำให้นายเฉลียวล้มทั้งยืนต่อหน้าบุตรชาย และผู้ขับขี่รถซึ่งติดสัญญาณไฟแดงอยู่จำนวนมาก จากนั้นคนร้ายได้ยิงซ้ำอีก 2 นัด แต่กระสุนพลาดเป้าพุ่งไปติดที่ผนังแมนชั่นใกล้ที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายได้เดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์และขี่ย้อนกลับมุ่งหน้าไปยังบ้านกูกู้ ถ.รัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หายไปอย่างรวดเร็ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับชายและรถจักรยายนต์ต้องสงสัย แต่ไม่พบวี่แวว
สำหรับสาเหตุของการสังหารในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ชี้ชัดประเด็นประเด็นหนึ่ง แต่มีการให้น้ำหนักสาเหตุเกิดจากการความไม่พอใจ ซึ่งอาจจะเกิดจากการขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าหรือเบียดกัน กับความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งสอบสวนผูใกล้ชิด รวมทั้งผู้ที่ร่วมอยู่ในวินจยย.รับจ้างด้วย เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น