จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เตรียมนำรถเอ็กซเร่ย์ยาเสพติดไว้ที่ด่านตรวจภูเก็ต


พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 กล่าวถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายมีความเป็นห่วงเรื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด เนื่องจากการแพร่ระบาดมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่างที่ทำให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ยั่งยืน แม้ที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง และสำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าวถือเป็นนโยบายเร่งด่วนสำคัญในลำดับต้นๆ ของตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งได้มอบหมายแนวทางการปฏิบัติให้กับหัวหน้าสถานีตำรวจและผู้รับผิดชอบด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบไปแล้ว ในการดำเนินการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง และจะต้องทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าตำรวจได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่

“จากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ลดปริมาณโดยการนำผู้เสพหรือผู้ติดเข้าสู่ระบบการบำบัด และลดจำนวนผู้เสพผู้ติดรายใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลายวิธีการ ทั้งการจับกุมผู้เสพ ผู้ติด ผู้ค้าและยึดทรัพย์ โดยในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมาในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 8 มีการจับกุมผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ถึง 20,000 ราย ซึ่งในส่วนของภูเก็ตถือเป็นจังหวัดต้นๆ ที่มีการจับกุมได้ค่อนข้างมากสูงถึง 3,500 ราย ซึ่งการจับกุมถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สิ่งสำคัญ คือ ความร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”

พล.ต.ท. ก่อเกียรติ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงในเขตรับผิดชอบของภาค 8 นั้นก็มีความเป็นห่วงทุกพื้นที่ โดยจะมีลักษณะการแพร่ระบาดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ กรณีเมืองเศรษฐกิจหรือแหล่งท่องเที่ยวยาเสพติดที่แพร่ระบาดส่วนใหญ่จะเป็นประเภทยาเสพติดที่มีราคาแพง อาทิ ยาไอซ์ เป็นต้น ส่วนพื้นที่ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ไม่ดีนักก็จะเป็นในกลุ่มของกระท่อม ซึ่งก็ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ ส่วนของเส้นทางการลำเลียงนั้นก็สามารถที่จะตรวจสอบจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ในส่วนของด่านจังหวัดภูเก็ตบริเวณท่าจังหวัดได้เสนอขอรถตรวจเอ็กซเร่ย์ยาเสพติดมาใช้แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณในการบำรุงรักษาสูงแต่คุ้มค่าในแง่จิตวิทยาและผลการจับกุม คาดว่าจะนำมาประจำได้ประมาณเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนั้นทาง ปปส.ก็ได้มีการตั้งด่านตรวจสกัดยาเสพติดถาวรที่รอยต่อบริเวณ จ.ชุมพร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศของคณะรัฐมนตรี เมื่อได้ทั้งสองส่วนประกอบกันก็จะทำให้สามารถสกัดเส้นทางลำเลียงจากภาคใต้ตอนบนเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตได้ระดับหนึ่งและยากขึ้น ขณะที่การหาข่าวขณะนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวด้วยว่า สำหรับภูเก็ตไม่ค่อยจะน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะทุกฝ่ายทราบดีว่ารายได้ที่เกิดขึ้นจากปีละร่วมแสนล้านบาท และความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดปัญหาอาชญากรรมก็จะกระทบกับการท่องเที่ยวได้ ประกอบกับขณะนี้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่จัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และให้มีการซักซ้อมเพื่อสามารถนำมาใช้ปฏิบัติได้จริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น