จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มหกรรมล้อเหล็ก เพื่อคนพิการ


เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมล้อเหล็ก ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) จัดขึ้น โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าตอง ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต สมาคมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จังหวัดภูเก็ต ชมรมโรตารี่ทุกสาขาในจังหวัดภูเก็ต ชมรมทูบีนัมเบอร์วันจังหวัดภูเก็ต เครือข่ายเมาแล้วขับจังหวัดภูเก็ต และผู้พิการที่ต้องนั่งรถเข็นเข้าร่วมจำนวน 40 คน โดยทั้งหมดได้ร่วมกันนั่งรถเข็นจากบริเวณเวทีกลางสะพานหินไปยังปลายแหลมสะพานหินระยะทางประมาณ 500 เมตรด้วย

นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการการดำเนินงานดูแลผู้ป่วย ผู้พิการ และการค้นหาผู้พิการในจังหวัดภูเก็ต ตามโครงการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้พิการในชุมชน ปรากฎข้อมูลผู้พิการในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับจดทะเบียนคนพิการทุกประเภทจำนวน 3,550 คน ในจำนวนดังกล่าว พบผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และผู้พิการที่ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย และบางรายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย นอนติดบ้าน ติดเตียง จำนวนมากกว่า 350 ราย

นอกจากนี้จากการที่ได้จัดทีมอาสาสมัครสาธารณสุข พยาบาล แพทย์ ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ออกเยี่ยม ดูแลสุขภาพ และสนับสนุนส่งเสริมด้านการประกอบอาชีพ ยังพบว่ามีผู้ป่วย และผู้พิการซึ่งต้องอยู่บ้านามลำพัง ไม่มีโอกาสออกจากบ้านมาสัมผัสกับสังคมภายนอก เนื่องจากไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ทางลาด ที่จอดรถ ดังนั้นการให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้พิการทุกประเภท จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้พิการอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยการจัดงานมหกรรมล้อเหล็ก นั้นก็เพื่อรณรงค์ให้สังคม ชุมชน องค์กร หน่วยงานได้เห็นถึงความสำคัญในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ เช่น ทางลาด ที่จอดรถ เป็นต้น นพ.วิวัฒน์กล่าว

ขณะที่นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่องค์กรต่างๆ ได้ร่วมมือร่วมใจกันให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ร่วมกันจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน และความสะดวกอื่น ๆ ที่เหมาะสม และจำเป็นให้ผู้พิการได้รับบริการตามสภาพความพิการ โดยเฉพาะผู้พิการที่ต้องนั่งรถเข็น ต้องอยู่ติดบ้าน ติดเตียง ได้มีโอกาสออกนอกบ้านสู่สังคมนอกบ้านได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ และขณะเดียวกันความสุขที่ผู้พิการรับก็มีผลให้ผู้ดูแลผู้พิการได้รับความสุขด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น