จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รวบสาวใหญ่รับจ้างส่งยามูลค่ากว่า 1 ล.บาท


เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ประกอบด้วย น.ส.ชุลีกร สายทอง อายุ 35 ปี และนายปิยพันธ์ กษิรักษา อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 319.2 กรัม มูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท ยาบ้า 2,940 เม็ด มูลค่ากว่า 5 แสนบาท รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ถค 7323 กรุงเทพมหานครและรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน 887 ภูเก็ต โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนดิลกอุทิศ 2 ใกล้ลานจอดรถโรงแรมถาวรแกรนด์พลาซ่า จากนั้นพาไปค้นที่ร้านบ้านเจ้าคุณนวดแผนไทย ถ.ศักดิเดช ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ก่อนนำตัวผู้ต้องพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สวป.-หน.ชปส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมพวกได้สืบทราบว่า น.ส.ชุลีกร มีพฤติกรรม รับจ้างขนยาไอซ์จากกรุงเทพฯมาส่งให้เอเย่นต์ใหญ่ใน จ.ภูเก็ต โดยจะมีวิธีวางยาไอซ์ – ยาบ้าตามจุดต่างๆ ที่มีลูกค้าสั่งซื้อ และนัดหมายกันทางโทรศัพท์แล้วโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จึงได้วางแผนเข้าตรวจค้นจับกุมขณะที่ น.ส.ชุลีกรจอดรถกระบะคุยโทรศัพท์กับเอเย่นต์ ซึ่งมาทราบภายหลังคือ นายปิยพันธ์ ที่บริเวณตลาดเกษตร ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ เพื่อนัดส่งยาไอซ์ จากการตรวจค้นภายในรถพบยาไอซ์น้ำหนัก 226.20 กรัม ยาบ้า 1,940 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ น.ส.ชุลีกรนำยาไอซ์ดังกล่าวไปส่งให้นายปิยพันธ์ที่บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะริม ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จนกระทั่งนายปิยพันธ์เดินทางมารับของ ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าจับกุม จากการตรวจค้นพบยาไอซ์ 53 กรัมและยาบ้าอีก 5 ถุง รวม 1,000 เม็ด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ขยายผล
จากการสอบสวนน.ส.ชุลีกร ได้ให้การรับสารภาพว่าเคยทำธุรกิจนวดแผนไทยย่าน ถ.ศักดิ์เดชน์ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต แต่รายได้ไม่ดี จึงหันมารับจ้างส่งยาไอซ์ – ยาบ้า ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและมูลค่าของยาเสพติดที่นำมาจากกรุงเทพฯ โดยครั้งนี้ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท ส่วนนายปิยพันธ์อ้างว่าเป็นแค่คนมารับยาไอซ์ – ยาบ้าเท่านั้น ได้ค่าจ้างเพียง 5,000 บาท จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น