จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สืบภาค 8 บุกอู่เรือพบน้ำเขียวกว่าหมื่นลิตร


เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 54 พ.ต.อ.สุริศักดิ์ วิชัยดิษฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภณัฐ รัตนภิรมย์ สว.สส.2 บก.สส.8 และพวก ได้เข้าตรวจสอบภายใน อู่ซ่อมเรือสปีดโบ๊ทของ บริษัท นนทศักดิ์ มารีน ถนนวิเศษ ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ที่อู่ภายในบริษัทดังกล่าว มีการกักเก็บน้ำมันที่มิได้เสียภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าอู่ซ่อมเรือสปีดโบ๊ทดังกล่าว อยู่หลังธนาคารไทยพาณิชย์สาขา ราไวย์ เป็นอู่ซ่อมเรือสปีดโบ๊ทของบริษัทนนทศักดิ์ มารีน ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยวทางทะเล พบพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังซ่อมเรืออยู่ ที่บริเวณลานจอดรถพบรถบรรทุกน้ำมัน 6 ล้อ จำนวน 1 คัน โดยภายในรถมีน้ำมันบรรจุอยู่ในรถประมาณ 3,000 ลิตร นอกจากนั้นยังพบถังบรรจุน้ำมันขนาด 3,000 ลิตร วางอยู่ใกล้กันอีก 1 ถัง จาสกการตรวจสอบมีน้ำมันอยู่ด้านในจำนวน 2,700 ลิตร นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบ บริเวณลานหน้าอู่ซ่อมเรือพบบ่อน้ำมันใต้ดินขนาดใหญ่อีก 1 บ่อ ซึ่งบรรจุน้ำมันได้ 5,000 ลิตร ทางเจ้าหน้าที่จึงอายัดน้ำมันทั้งหมดรวม 10,700 ลิตร ไว้ตรวจสอบ โดยมีนายศุภกิตติ แก้วประดิษฐ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ถนนบางกอก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับเป็นเจ้าของอู่ดังกล่าว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ฉลอง ดำเนินคดีในข้อหามีไว้ในครอบครอง ซึ่งสินค้า (น้ำมัน) โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตตรา 161 ซึ่งต้องโทษระหว่าง 2 – 10 เท่า ของอัตราภาษีน้ำมัน
พ.ต.ท.ศุภณัฐ รัตนภิรมย์ สว.สส.2 บก.สส.8 กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งนี้ เนื่องจากชุดจับกุมได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่อู่ซ่อมเรือบริษัทนนทศักดิ์ มารีน ซื้อน้ำมันที่มิได้เสียภาษีเก็บไว้จำนวนกว่าหมื่นลิตร ซึ่งทำให้รัฐสูญเสียภาษีที่จะนำไปพัฒนาประเทศอย่างมหาศาล จึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่าเจ้าของบริษัทไม่มีใบเสียภาษีมาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวและอายัดน้ำมันทั้งหมดเป็นของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น