เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 ภายหลังจากที่นายโกศล หรือวาน สัญชาติมอญ ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 490 /2555 ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาหรือเอาทรัพย์ ซึ่งได้ก่อเหตุบุกจี้ร้านทองยงชวน ตั้งอยู่เลขที่ 68/295 ซอยบ้านการเคหะฯ ภูเก็ต ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง ภูเก็ต ได้ทองคำรูปพรรณไปน้ำหนักรวมประมาณ 150 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา
ได้เข้ามอบตัวกับทางพ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.อ.วันไชย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ที่ สภ.เมืองภูเก็ต เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ต ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้นำตัวนายโกศล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ ร้านทองยงชวน โดยมี พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.อ.วันไชย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้คุมตัวนายโกศลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณแพศรีไพบูลย์ชัย ซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดที่นายโกศล นำรถจักรยานยนต์ อาวุธปืนอัดลม ผ้ากันเปื้อน และวิกผมไปทิ้งไว้ก่อนที่จะหลบหนี ซึ่งการทำการทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 2 จุด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากผู้ต้องหาและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ กล่าวว่า การเข้ามามอบตัวของนายโกศล 1 ใน 2 ผู้ต้องหาคดีดังกล่าวนั้น เป็นผลจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้มีการสืบสวนหาข่าวจนพบแหล่งกบดาน และได้มีการกดดันจนออกมามอบตัวในที่สุด ส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือ คือ นายเมฆนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดชุดออกติดตามแล้ว คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของร้านทองดังกล่าวถือว่าอยู่ในจุดที่ค่อนข้างล่อแหลม แม้ว่าจะมีการจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจมาดูแลอยู่แล้ว และทางร้านเองก็มีระบบการป้องกันที่ค่อนข้างดี แต่พบว่ายังมีปัญหาบางจุด คือ ในส่วนของตู้กระจก ซึ่งได้ให้คำแนะนำไปด้วยว่า ควรที่จะเป็นกระจกติดฟิล์ม เพราะหากมีการทุบหรือจะล้วงเข้าไปเพื่อหยิบทองก็จะทำได้ลำบาก ซึ่งไม่เฉพาะร้ายยงชวนเท่านั้น แต่ฝากไปถึงในส่วนของร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณอื่นๆ ด้วย
ด้านนางศิรินันทร์ ศิริกลวรกุล อายุ 64 ปี เจ้าของร้านทองยงชวน กล่าวว่า ในส่วนของจำนวนทองคำรูปพรรณที่คนร้ายหยิบไปยังไม่ชัดเจนนักแต่เท่าที่ตรวจสอบคิดว่ามากกว่า 100 บาท โดยทั้งหมดก็มีการประกันไว้แล้ว และพอใจกับการทำงานของตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น