จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ทูตเวียดนามพร้อมส่งเสริมท่องเที่ยวภูเก็ต


เมื่อบ่ายวันที่ 3 กันยายน 2555 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับนาย โง ดึ๊ก กัง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เนื่องจากมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามซึ่งอพยพมาจากทางภาคอีสานมาตั้งรกรากอยู่อาศัยและประกอบอาชีพในจังหวัดภูเก็ตมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
โดยมีจำนวนรวมกว่า 500 ราย ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพอิสระและมีธุรกิจเป็นของตนเอง เช่น ร้านขายเสื้อผ้า ร้านตัดสูท เป็นต้น

นาย โง ดึ๊ก กัง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเดินทางมายังภูเก็ตครั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่างๆ ระหว่างกัน ทั้งเรื่องของการบริหารจัดการและการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ตลอดจนนโยบายระดับรัฐเพื่อที่จะมีตลาดร่วมเดียวกัน เพื่อให้มีกำลังในการต่อรองกับประเทศมหาอำนาจ รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า และขณะนี้รัฐบาลไทยกับรัฐบาลเวียดนามก็ได้มีการดำเนินการทำข้อตกลงร่วมกัน ว่าด้วยการนำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีความชื่นชอบจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตแล้ว 1 ครั้งและได้มีโอกาสเที่ยวชมและสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในเวลาวันและกลางคืน ประกอบกับพบว่าปัจจุบันมีคนไทยเชื้อสายเวียดนามอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก และในอนาคตก็จะมีการทำความร่วมมือการท่องเที่ยวกับจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะส่งเสริมให้มีสายการบินตรงเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต นาย โง ดึ๊ก กัง กล่าว 

ขณะที่นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง รวมทั้งได้พยายามสร้างกิจกรรมต่างๆ ขึ้นภายในจังหวัด เพื่อเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เพื่อเป็นการสร้างเสริมรายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางจังหวัดและผู้ประกอบการก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปิดประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในอีกสามปีข้างหน้า โดยเน้นพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้านอาเซียนมากขึ้น ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตมีความยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากทั่วโลกอยู่แล้วไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และยินดีเป็นอย่างยิ่งหากกลุ่มนักลงทุนชาวเวียดนามจะเข้ามาลงทุนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งยอมรับว่าปัจจุบันเรายังมีความขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ ดังนั้นหากทั้งสองประเทศได้ดำเนินการทำ MOU ก็จะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น