สำหรับบรรยากาศประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2556 ของจังหวัดภูเก็ต ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคม 2556 โดยวันนี้ (5 ต.ค.56) ซึ่งเป็นวันแรกของประเพณี ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีฝนตกโปรยปรายลงมาตลอด แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อผู้ที่เข้าร่วมประเพณี โดยยังคงมีการเดินทางไปยังศาลเจ้า (อ๊าม) ต่างๆ เพื่อทำบุญตามศรัทธาและนำภาชนะไปรับอาหารจากโรงเจของศาลเจ้าเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน
ในขณะที่บางรายก็นั่งรับประทานอาหารภายในโรงเจ ซึ่งมีการจัดเตรียมไว้บริการด้วย โดยเฉพาะศาลเจ้าใหญ่ๆ เช่น ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ศาลเจ้าบางเหนียว เป็นต้น จะมีผู้ไปรับอาหารเจค่อนข้างมาก และยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในช่วง 3 วันสุดท้ายของประเพณี นอกจากนี้ยังมีการหารืออาหารเจจากร้านค้าทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กับศาลเจ้า โดยเฉพาะช่วงเย็นจะมีคนออกมาหาซื้ออาหารเจรับประทานกันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ออกมาเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนี้ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น วัฒนธรรมจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ได้ไปตรวจเยี่ยมมูลนิธิเทพราศี หรือ ศาลเจ้าบางเหนียว
พร้อมกันนี้ยังถือโอกาสร่วมตักอาหารเจให้กับประชาชนที่มารับอาหารเจที่ศาลเจ้าบางเหนียวด้วย โดยมีนายประเสริฐ ฟักทองผล ประธานชมรมอ๊ามจังหวัดภูเก็ต และประธานศาลเจ้าบางเหนียว พร้อมคณะกรรมการให้การต้อนรับ
ขณะที่นายชาญชัย ดวงจิตต์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2556 ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม 2556นี้ ว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความคึกคัก
และจากการสอบถามข้อมูลจากโรงแรมต่างๆ พบว่า อัตราการเข้าพักของโรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองเมืองภูเก็ตอยู่ที่ประมาณ 70-80% ขณะที่โรงแรมบริเวณชายหาดอัตราการจองห้องพักอยู่ที่ 80-80% แต่ในช่วง 4 วันสุดท้ายของงานประเพณีพบว่า อัตราการจองห้องพักโรงแรมในตัวเมืองส่วนใหญ่เต็ม 100% โดยเฉพาะโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเส้นทางที่ขบวนแห่พระรอบเมืองผ่าน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในระยะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มาซ้ำจากมาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์จีน และคนไทยเชื้อสายจีน ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เริ่มเข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาปกติ จะส่งผลให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวระยะนี้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท นายชาญชัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น