จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ให้ความรู้เครือข่ายยุติความรุนแรง

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 53 ที่ห้องประชุมโรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม “โครงการรณรงค์สร้างเครือข่ายเพื่อยุติความรุนแรงต่อหญิงและเด็ก” แก่ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีนายศรีปาล ศรีเปารยะ อัยการจังหวัด สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จังหวัดภูเก็ต (สคช.จังหวัดภูเก็ต) นายกมลธรรม วาสบุญมา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมาตรฐานจริยธรรม สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมฯ โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลรัษฎาเข้าร่วมการอบรมจำนวน 250 คน

ทั้งนี้นายศรีปาล ได้กล่าวว่า ด้วยในโอกาสที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจบการศึกษาด้านกฎหมาย และทรงงานเป็นพนักงานอัยการ จึงทำให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงสัมผัสกับความทุกข์ยาก ความเดือดร้อน และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิดโดยพระองค์เอง จึงทรงธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ความเท่าเทียมกัน และความมีพระเมตตา ในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ตกทุกข์ได้ยากในสังคม ทั้งทรงห่วงใยถึงปัญหาการที่ผู้หญิงถูกรังแก ถูกใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ จึงทรงเมตตาตอบรับเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับ ยูนิเฟม ในโครงการ Say No to Violence Against Women ประเทศไทย และโครงการยุติความรุนแรงในประเทศไทย ซึ่งในปี 2553 ได้กำหนดให้มีการรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงจำนวน 100,000 กิจกรรม ครบถ้วนภายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 อันเป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล

ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองแนวพระดำริ แสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการคุ้มครองสิทธิสตรี อันเป็นภารกิจหนึ่งในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุด สคช.จังหวัดภูเก็ต สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา และเครือข่ายประชาชนตำบลรัษฎา จัดการฝึกอบรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติฯ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ถึงสาเหตุปัญหาการล่วงละเมิดและความรุนแรงต่อหญิง และเด็ก รวมทั้งสาเหตุ
ปัญหาในการเกิดความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการแก้ไขปัญหา วิธีการมิให้ถูกล่วงละเมิดและเกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พร้อมข้อเสนอแนะสำหรับการทำงานกับครอบครัวที่เผชิญสภาวะการใช้ความรุนแรงต่อหญิง และเด็ก เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว และการคุ้มครองสิทธิเด็กและเสตรี และเพื่อสร้างเครือข่ายร่วมกันรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อหญิงและเด็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น