จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตม.ภูเก็ตรวบไต้หวันหนีคดียาไอซ์มูลค่ากว่า 100 ล.


เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2553 ที่ห้องประชุมสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวการจับกุม นายอู๋ หลง มู่ (MR.WU JUNG-MU) อายุ 51 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) ซึ่งหนีการจับกุมคดียาเสพติดของแขวงเมืองผิงตง สาธารณรัฐประชาชนชนจีนมากบดานที่ภูเก็ตกว่า 8 ปี และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำปะเทศไทยได้ประสานมายังตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยผ่านทางศูนย์หมายจับอาชญากรรมข้ามชาติ


พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ ว่า ด้วยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2545 นายอู๋ หลง มู่ ได้ว่าจ้างนายจวง ไฉ่ หยวน เป็นเงิน 600,000 เหรียญไต้หวัน นำเรือออกจากเมืองผิงตง ไต้หวัน เดินทางเข้าไปในเขตน่านน้ำเมืองฝู่เจียน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเรือไม่ทราบชื่ออีกลำนำสินค้าใส่ถุงดำขนาดใหญ่ จำนวน 2 ถุง มาส่งให้จากนั้นได้เดินทางกลับ กระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม 2554 เวลาประมาณ 01.00 น. เรือได้เข้าเขตน่านน้ำไต้หวันและถูกตำรวจน้ำไต้หวันจับกุมได้ และตรวจพบว่าภายในถุงดำทั้ง 2 ถุง บรรจุยาแอมแฟตามีน (ยาไอซ์) 99% จำนวน 30 ถุง น้ำหนัก 30.26 กิโลกรัม คิดราคาในประเทศไทยจำนวน 100 ล้านบาท และในประเทศไต้หวันคิดมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท หลังจากนั้นนายอู๋ หลง มู่ ได้เดินทางหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2545 โดยศาลแขวงเมืองผิงตง สาธารณรัฐประชาชนจีน (ไต้หวัน) ได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2546 และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปคาดว่านายอู๋ หลง มู่ อาจจะพักอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต

อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับการประสานงานเข้ามา ทางตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตก็ทำการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายอู๋ หลง มู่ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552 ทางท่าอากาศสุวรรณภูมิ ได้รับการตรวจลงตราประเภท “NON-B” อนุญาตถึงวันที่ 24 มกราคม 2553 และต่อมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 ได้ยื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ประเภท “ใช้ชีวิตบั้นปลาย” อนุญาตถึงวันที่ 24 มกราคม 2554 จึงได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2553 และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมของตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตก็ได้ออกสืบสวนและติดตามตัว จนเกระทั่งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 พบนายอู๋ หลง มู่ อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เหมยโจว ถ.หลวงพ่อ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จึงได้ตรวจสอบและกักตัวเพื่อประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ในการผลักดันส่งกลับเพื่อดำเนินคดีในไต้หวันต่อไป

พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับนายอู๋ หลง มู่ เข้ามากบดานอยู่ในภูเก็ตได้ประมาณ 8 ปีแล้ว โดยประกอบอาชีพเป็นนายหน้าส่งออกปลาทูน่าไปต่างประเทศ ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงเกาะสิเหร่ ซึ่งนอกจากรายนี้แล้ว ทางตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตจะให้ความสำคัญในการตรวจสอบข้อมูลของคนไต้หวันที่เข้ามาอยู่อาศัยและประกอบอาชีพในภูเก็ตมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการจับกุมคนไต้หวันที่เข้ามาทำผิดกฎหมายในประเทศไทยจำนวนหลายราย เช่น แก็งค์ Call Center เป็นต้น ส่วนชาติอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายของการติดตามตัวนั้นมีอยู่หลายรายแต่จะเป็นจากประเทศใหญ่ๆ ซึ่งขณะนี้มีบัญชีชาวต่างชาติที่เข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทยซึ่งทางศูนย์หมายจับอาชญากรรมข้ามชาติได้รวบรวมไว้มีจำนวนถึง 3,000 ราย

พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตสามารถจับกุมชาวต่างชาติที่หลบหนีความผิดเข้ามาซ่อนตัวในภูเก็ตรายสำคัญได้แล้ว 4 ราย ประกอบด้วย ชาวเกาหลีใต้ เยอรมัน อเมริกัน และไต้หวัน นอกจากนี้ยังมีรายเล็กๆ อีกหลายรายด้วย ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในภูเก็ตและมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปทำการตรวจสอบ และหากพบมีความผิดจะได้มีการผลักดันส่งกลับประเทศของเขาต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น