จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

“เด็จพี่” ตรวจสอบที่ดินแปลง “หาดฟรีด้อม“


เมื่อวันที่ 13 มกราคม 55 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ อาทิ รองเลขานุการสำนักงาน สปก. รองอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้เชี่ยวชาญกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ นายสิทธิชัย พรหมชาติ ที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายไชยผดุง พรหมสวัสดิ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต นายวิบูลย์ รวยสิน ปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงส์ทอง ผบก.ภ.จว.พังงา และพ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมสำรวจพื้นที่บริเวณหาดฟรีด้อม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งมีผู้ร้องเรียนผ่านทางพรรคเพื่อไทย ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง โดยออกในที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ทั้งนี้คณะได้เดินทางเข้ายังแปลงที่ดินดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาแยกจากถนนสายป่าตอง-ไตรตรังระยะทางประมาณ 2 กม.ซึ่งมีลักษณะขรุขระ ตลอดสองข้างทางเป็นผืนป่าค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อไปถึงพื้นที่แปลงฟรีด้อม พบสภาพทั่วไปเป็นป่าค่อนข้างสมบูรณ์และต้นไม้ท้องถิ่นขนาดใหญ่ 2-3 คนโอบ จำนวนหนึ่ง เช่น ต้นไทร ต้นนทรี ตันพลับพลา เป็นต้น และมีต้นยางพาราขนาดอายุไม่เกิน 2 ปีเล็กน้อย โดยไม่พบพืชผลอาสินอย่างอื่น รวมทั้งมีการปลูกกระท่อมไม้ไผ่ซึ่งมีการระบุเลขของกระท่อมอีกจำนวนหนึ่ง โดยคณะได้เดินจากเนินเขาไปตามเส้นทางที่ค่อนข้างลาดชันมากลงไปยังชายหาดฟรีด้อมระยะทางประมาณ 2 กม. เมื่อลงไปถึงชายหาดพบนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดและเล่นน้ำ ซึ่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวจะเดินทางมาจากหาดป่าตองด้วยเรือหางยาว และยังพบมีการตั้งร้านค้าจำหน่ายอาหารเป็นอาคารถาวรให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนประมาณ 2-3 ร้านด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีประชาชนเข้าไปร้องเรียนกับทางพรรคฯ ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิดและส่วนหนึ่งของที่ดิน สปก.โฉนดเลขที่ 98414 กับเลขที่ 98415 เนื้อที่รวมประมาณ 65 ไร่ ซึ่งมีการเปลี่ยนมือมาแล้วหลายทอดปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 3,000 บาท ดังนั้นจึงลงมาดูสภาพข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งผู้ร้อง เจ้าของที่ดินและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากพบว่าถูกต้องก็ไม่มีปัญหา แต่หากตรวจพบว่าไม่ถูกต้องก็จะมีการตรวจสอบย้อนถึงที่มาของการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิดังกล่าว
อย่างไรก็ตามจากการที่ได้สำรวจพื้นที่พบว่าสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และไม่พบพืชผลอาสิน มีความลาดชันเกินกว่า 30 องศา ซึ่งไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า การชี้แจงของกรมป่าไม้ซึ่งระบุว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิด แต่กรมที่ดินกลับบอกว่าไม่ใช่เขตป่าฯ และจากการพูดคุยกับกำนันตำบลกะรน บอกว่าที่ดินแปลงดังกล่าวทางกำนันผู้ใหญ่บ้านเจ้าของพื้นที่ไม่ได้รับรองแนวเขตซึ่งต่างจากการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงอื่นๆ กำนันผู้ใหญ่บ้านในฐานะของผู้ปกครองท้องที่จะต้องรับรองแนวเขตด้วย ส่วนกรณีที่มีการระบุที่ดินแปลงนี้มีการทำประโยชน์มาก่อนปี 2497 แต่กลับพบว่าสภาพส่วนใหญ่เป็นป่าสมบูรณ์และไม่มีพืชผลทางการเกษตรแต่อย่างใด และยังพบมีการปลูกกระท่อมไว้เพื่อเป็นที่พักอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็คงต้องไปชี้แจงรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ด้วยเชื่อว่าที่ดินแปลงนี้มีการซื้อขายกันมาแล้วหลายทอด
“จากที่ได้สำรวจเบื้องต้นด้วยตาเปล่าสภาพภูมิประเทศน่าจะมีความลาดชันเกินกว่า 35องศา ซึ่งไม่สามารถออกเอกสารได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลในเชิงลึกด้วยว่า เมื่อประมาณปี 48-49 นายอำเภอเมืองภูเก็ตสมัยนั้นได้ทำการจับกุมชาวบ้านในข้อหาบุกรุกแผ้วถางในพื้นที่ป่าสงวนฯ แต่มาเมื่อเร็วๆ นี้กลับมีผู้นำไปออกเอกสารสิทธิได้ นายพร้อมพงศ์กล่าวและกล่าวด้วยว่า ปกติในการรังวัดออกโฉนดที่ดินทุกแปลงทางผู้ปกครองท้องถิ่นซึ่งได้แก่กำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องมีส่วนร่วมด้วย แต่ครั้งนี้กลับไม่ปรากฏ ดังนั้นจึงมองว่าการออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะต้องทำการพิสูจน์ว่ามีส่วนราชการใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงในอดีต”
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็อาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการออกเอกสารดังกล่าวว่า มีส่วนราชการเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน ป่าไม้ สปก. ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง รวมทั้งจะได้มีการอ่านภาพถ่ายทางอากาศและตรวจสอบพิกัด GPRS โดยประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เข้ามาร่วมตรวจสอบ เมื่อได้ผลเป็นเช่นไรก็จะได้ส่งเรื่องของกับกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยเพื่อทบทวนการออกเอกสารสิทธิดังกล่าว ว่าดำเนินการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบแล้วก็จะส่งเรื่องให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับทราบเนื่องจากเป็นผู้ดูแลกรมที่ดิน รวมถึงในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเรื่องดังกล่าวอาจจะเกี่ยวโยงกับการลอบยิงเจ้าของหนังสือพิมพ์อินไซด์ภูเก็ตเสียชีวิต เนื่องจากมีการขุดขุ้ยประเด็นที่มาของเอกสารสิทธิของที่ดินแปลงดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น