จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ชาวภูเก็ตร่วมพันคนรวมตัวขับไล่ “ปลอดประสพ”



เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน ทางชมรมรักษ์ภูเก็ตโดยการนำของนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ และชาวภูเก็ตประมาณ 1,000 คน พร้อมด้วยแผ่นป้ายขนาดต่างๆ พร้อมข้อความต่างๆ ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง 


เนื่องจากประชาชนชาวภูเก็ตจำนวนมากเกิดความไม่พอใจต่อคำพูดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้กล่าวคำปราศรัยบนเวที ในงาน”เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย ซึ่งได้จัดขึ้นที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา 


หลังจากร่วมตัวแล้วก็ได้มีการปราศรัยของนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายทั้งหมดด้วยรถจักรยานยนต์กว่า 300 คัน และรถยนต์อีก 50 คัน ไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะไปหยุดที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ติดราชการที่จังหวัดตรัง จึงได้มอบหมายนางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือแทน 


ทั้งนี้นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ได้ปราศรัยบนรถขยายเสียงว่า ที่มาวันนี้ไม่มีเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการปราศรัยของนายปลอดประสพที่จังหวัดเชียงใหม่เพียงอย่างเดียว จนทำให้ชาวภูเก็ตทนไม่ไหว มีความอึดอัดใจ โดยรัฐบาลต้องปลดนายปลอดประสพออกจากตำแหน่งรองนายกฯ และไม่ต้องการคำขอโทษ เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ต มีรายได้จากการเก็บภาษีถึง 180,000 ล้านบาท แต่ทางรัฐบาลไม่นำภาษีเหล่านี้มาพัฒนาพื้นที่ภูเก็ตเท่าที่ควร กลับนำไปใช้จังหวัดอื่น อีกทั้งยังไม่ยอมแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง มุ่งแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น 


ด้านนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรมคนรักษ์ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ประชาชนชาวภูเก็ตรู้สึกไม่พอใจต่อคำปราศรัยของนายปลอดประสพ ที่กล่าวพาดพิงจังหวัดภูเก็ตในเชิงเหยียดหยาม กรณีการยกเลิกโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต ว่า “สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์บอกว่าจะไปสร้างที่จังหวัดภูเก็ต แต่เราก็สร้างศูนย์ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่จนสำเร็จ มันก็ทวงให้เราไปสร้างที่ภูเก็ต ยังไม่สร้างให้จะมีปัญหาไหม วันหน้าจะสร้างแน่นอนเมื่อภูเก็ตเห็นความดีของพวกเรา และเลือกคนของเรา วันนั้นจะไปทำให้ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะทำ” 


คำกล่าวเหล่านี้เป็นการสร้างความยั่วยุให้เกิดความแตกแยกในสังคม และแบ่งแยกประชาชน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติ ข่มขู่ให้ประชาชนต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นจึงได้งบประมาณ ทั้งนี้วิธีดังกล่าวขัดแย้งต่อแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 


จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่สร้างรายได้สู่ประเทศไทยปีละ 188,000 ล้านบาท จังหวัดภูเก็ตพัฒนาศักยภาพจนเติบโตและแข็งแรงขึ้นมาได้ โดยมีภาคธุรกิจและภาคประชาชนเป็นฐานสำคัญ รัฐบาลควรให้การสนับสนุนและหึความสำคัญต่อการเสริมศักยภาพให้ภูเก็ตเติบโตอย่างเต็มที่ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับยกเลิกโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวให้จังหวัดภูเก็ต ทำให้สูญเม็ดเงินรายได้ที่จะกลับเข้ามาเป็นจำนวนมหาศาล และรองนายกรัฐมนตรีได้ออกมากล่าวคำปราศรัยเหยียดหยามต่อชาวภูเก็ต ก่อให้เกิดความแตกแยกและไม่พอใจในวงกว้าง 


ดังนั้นทางชมรมคนรักษ์ภูเก็ต ในฐานะตัวแทนของชาวภูเก็ตขอเรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1.พิจารณาให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดธรรมาภิบาล ขาดวุฒิภาวะและสร้างความแตกแยกในสังคม 2.รัฐบาลต้องนำงบประมาณคืนให้ชาวภูเก็ต เพื่อสร้างศูนย์ประชุมดังเดิม มิเช่นนั้นจะถือว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารงานบกพร่อง เลือกปฏิบัติ ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่กลับเห็นผลประโยชน์ของพวกพ้องตนเองเป็นสำคัญ 


ภายหลังนางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รับหนังสือ ก็ได้กล่าวกับผู้ที่มาร่วมชุมชนในครั้งนี้ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตจะนำเรื่องนี้ส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี ให้รับทราบถึงกรณีดังกล่าว ส่วนการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ยืนยันว่าทางจังหวัดจะทำเรื่องของบประมาณกับทางรัฐบาลต่อไป แต่จะได้รับการอนุมัติหรือไม่นั้น คงต้องรอให้ทางรัฐบาลเป็นฝ่ายพิจารณา 


จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้จัดรูปขบวน เพื่อเดินเท้าต่อไปยังสำนักงานสรรพากรพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดภูเก็ตประมาณ 500 เมตร เพื่อยื่นหนังสือให้สรรพากรพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเมื่อกลุ่มผู้ชุมชนเดินทางถึง ก็ได้มีการปราศรัยของนายเรวัต อารีรอบ จากนั้นนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ก็ได้อ่านเนื้อหาของหนังสือที่จะยื่น โดยเนื่องหาที่สำคัญก็คือ ชาวภูเก็ตในฐานะพลเมืองผู้เสียภาษี ขอเรียกร้องให้สรรพากรพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต้องดำเนินการในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงาน ที่จะต้องพิทักษ์เงินภาษีอากรให้เกิดความชอบธรรมแก่ประชาชนต่อไป โดยมีนางกัญญา วราหกิจ สรรพากรพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือด้วยตนเอง 


ซึ่งทางนางกัญญา วราหกิจ สรรพากรพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวกับผู้ร่วมชุมชนในครั้งนี้ว่า ตนเองมีรับตำแหน่งในจังหวัดภูเก็ตได้ 4 เดือน โดยในความเป็นจริงแล้วสรรพกร ไม่เคยเลือกปฏิบัติหรือ 2 มาตรฐาน โดยได้แน่นย้ำเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดว่า ให้ปฏิบัติหน้าที่เสมอภาคกัน และจะปกปักรักษาเงินภาษีอากรของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนในข้อเรียกร้องในครั้งนี้ ทางสำนักงานสรรพากรจังหวัดภูเก็ต จะได้ส่งต่อไปยังกรมสรรพกร และผ่านไปยังกระทรวงการคลังต่อไป 


จากนั้นทางกลุ่มผู้ชุมชนก็ได้แยกย้ายกันกลับ โดยทางกลุ่มผู้ชุมชนก็ได้มีการแต่งตั้งผู้ติดตามเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าหนังสือที่ยื่นกับทางจังหวัดและหนังสือที่ได้ยื่นกับสำนักงานสรรพพรพื้นที่ว่าได้มีการส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือไม่ ก่อนที่จะสลายตัวการชุมนุม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น