เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 พ.ต.ต.เฉลียว ท้ายฮู้ สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพูนผล อ.เมืองภูเก็ต ว่า เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธมีดแทงกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ภายในห้องประชุม ชั้น 2 ของธนาคารฯ
หลังรับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก้ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที, พ.ต.อ.วิทูร กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผกก. สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก., พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รองผกก.ป., พ.ต.ท.เศียร แก้วทอง รองผกก.สส., พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สว.สส., พ.ต.ต.รัฐเขต มั่นเมือง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ แพทย์เวรรพ.วชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
บริเวณด้านหน้าของธนาคารดังกล่าวซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนพูนผล อ.เมืองภูเก็ต มีประชาชนจับกลุ่มรอดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด ตรวจสอบบริเวณชั้น 2 อยู่ด้านหลังของธนาคาร โดยแบ่งเป็นมีศูนย์ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ศูนย์ธุรกิจกรุงศรี และศูนย์พิจารณาสินเชื่อธุรกิจ SME (ภูมิภาค) ภายในห้องประชุม มีเก้าอี้กระจัดกระจายทั่วบริเวณ และเลือดไหลนองพื้นที่เป็นจำนวนมาก
ที่พื้นข้างโต๊ะขนาดใหญ่ พบศพแรกทราบชื่อ นายไพบูลย์ เวชวนิชสนอง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.3 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดสวมเสื้อยืดสีขาว สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน บริเวณลำคอถูกแทงด้วยของมีคม และที่แขนด้านขวา และยังพบอีกหนึ่งศพนอนทับขาด้านซ้ายของศพแรก ทราบชื่อ นายพณธกร ธีรเบญจกุล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413 ม.6 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า สวมกางเกงยีนต์ มีเลือดไหลท่วมร่าง บริเวณหน้าอกมีมีดปักค้างอยู่ และยังพบบาดแผลตามร่างกายอีกจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้แพทย์เวรจากรพ.วชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบ พร้อมทั้งจัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตูโดยละเอียด ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารทราบว่า นายไพบูลย์ เวชวนิชสนอง เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าของร้านลิขิตมอเตอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และยังมีตำแหน่งเป็นเหรัญญิกศาลเจ้าท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ตด้วย ขณะที่นายพณธกร ธีรเบญจกุล เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 คนได้มีการนัดมาเจรจากันที่ธนาคารดังกล่าว เพื่อตกลงเรื่องที่นายพณธกร นำโฉนดที่ดินซึ่งได้มีการก่อสร้างอพาร์ทเม้นต์ บริเวณซอยบ่อปลาตากแดด ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ ขายฝากไว้กับนายไพบูลย์ ในราคาประมาณ 30.8 ล้านบาท และครบอายุสัญญาแล้ว
แต่เนื่องจากราคาที่ดินมีราคาเพิ่มสูงถึงประมาณ 40 ล้านบาท และได้มีการตกลงจะซื้อจะขาย กับผู้ที่ต้องการอีกรายในราคา 38 ล้านบาท จึงมีส่วนต่างมากขึ้น และมีการนำนายหน้าที่จะทำการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาร่วมรับฟังด้วย 2 คน รวมทั้งยังมี นายโสภณ อุดมทรัพย์ผู้จัดการธนาคารฯ ดังกล่าวร่วมฟังอยู่ด้วย แต่เจรจาไปได้สักพักใหญ่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทางผู้จัดการธนาคารก็ขอตัวออกมาก่อนเพื่อให้ทั้งสองคนได้พูดคุยกัน
หลังจากผู้จัดการธนาคารฯ ออกจากห้องประชุมดังกล่าวไม่นาน ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อนายพณธกร ได้ใช้มีดพกสำหรับเดินป่าออกมาแล้วใช้มีดแทงไปที่บริเวณลำคอของนายไพบูลย์ และแทงซ่ำอีกครั้งโดยที่นายไพบูลย์ยกมือขึ้นมารับ มีดจึงแทงเข้าที่มือด้านขวาแล้วล้มลงและเสียชีวิต จากนั้นนายพณธกร ก็ได้ใช้มีดเล่มเดียวกันแทงตัวเองตายตาม ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไม่สามารถตกลงการซื้อขายที่ดินได้ ทำให้นายพณธกรเกิดความเครียดและได้ใช้มีดแทงนายไพบูลย์จนเสียชีวิต และแทงตัวเองตายตาม อย่างไรก็ดีขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น