จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและสร้างความปรองดอง



เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ที่ห้องสวนหลวง โรงแรมคาทีน่า ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต โดยฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น 


โดยมีพ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, นายอรุณ สิงห์อินทร์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต, นายสมณ์ศักดิ์ รัตนแสนยานุภาพ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ตลอดจนผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดินและเยาวชน จาก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง อำเภอกะทู้ เข้าร่วมประมาณ 100 คน 


นายอรุณ สิงห์อินทร์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่23 สิงหาคม 2555 โดยได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก เรื่องที่ 1.1 สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแผนงานส่งเสริมการปกครองตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นการบูรณาการโครงการ กิจกรรม ภายใต้นโยบายเร่งด่วน ข้อ1.1 ดังกล่าว และนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ ข้อที่ 2.1 เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยกัน และคณะรัฐมนตรีได้รับทราบแผนงานฯ ดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทยแล้ว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 


จังหวัดภูเก็ตได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2556 ขึ้นเป็นปีที 2 ต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2555 เพื่อเป็นการขับเคลื่อนแผนงานส่งเสริมการปกครองอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติในระดับพื้นที่ โดยการปลูกฝังและเสริมสร้างแนวคิดของเยาวชนและผู้นำกลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นแกนนำในพื้นที่ให้ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทรงงานและแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 


รวมทั้งการส่งเสริมให้เยาวชนและผู้นำกลุ่มต่างๆ เหล่านั้น ได้เรียนรู้หลักการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แล้วนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่พื้นที่ของตนเอง อันจะเป็นการปลูกสร้างจิตสำนึกจงรักภักดีให้ยั่งยืนอยู่ในจิตใจ ควบคู่ไปกับการตระหนักถึงประโยชน์สุขของส่วนรวมมากกว่าส่วนตนและการธำรงรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำไปสู่ความรักสามัคคีปรองดองของคนในพื้นที่ต่อไป นายอรุณกล่าว 


ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ และเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปีแรกของรัฐบาล ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2555 และจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ประชาชนมีการแบ่งภาค แบ่งพวก แบ่งฝ่าย แบ่งสี อย่างชัดเจน บางครั้งทำให้เกิดการปะทะกันทั้งระหว่างภาครัฐกับประชาชนและประชาชนด้วยกันเอง มีการตาย บาดเจ็บ เกิดขึ้นให้เห็นตามสื่อต่างๆ เป็นประจำ 


เหตุการณ์เหล่านี้บางครั้งมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงอ้างความชอบธรรมของฝ่ายตน ชิงการได้เปรียบทางการเมือง รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รับทราบข้อเท็จจริงให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องสถาบันบนพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในการปกครอง โดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 


“การสร้างความปรองดองของคนในชาติเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง เพราะหากประชาชนขาดความสามัคคีประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร การปรองดองไม่จำเป็นต้องมีความเห็นเหมือนกัน อาจมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ในความเห็นที่แตกต่างกันนี้ เช่น ในการนับถือศาสนา มีความเชื่อที่แตกต่างกัน มีความเห็นตรงกันแต่ต่างศาสนา สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน รวมเป็นชาติเดียวกัน ในขณะเดียวกันในทางการเมืองเราก็สามารถมีความเห็นต่างกันได้ แต่วิธีการดำเนินการก็จะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากไม่ยึดถือกฎเกณฑ์บ้านจะวุ่นวาย ประเทศชาติเสียหายเหมือนเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์หลายครั้งที่ผ่านมา” นายจำเริญกล่าว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น