จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ตร.ภาค 8 ร่วมตร.ถลางบุกรวบคนร้ายยิงแคดดี้ได้ทั้งกลุ่ม


เมื่อวันที่ 18 มกราคม 54 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผบก.ภ.8 พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ พ.ต.อ.พีระยุทย์ การเจดีย์ พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางประทุม ชุมรักษ์ ผู้ใช้ ผู้จ้างวาน นายพงษ์ศักดิ์ บูรณะ มือปืน นายไพศาล ปรีชา ผู้ติดต่อมือปืน และนายหมาน (นามสมมุติ) ผู้ขับขี่รถจยย.พามือปืนไปลงมือ

สำหรับการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 53 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงน.ส.อมรรัตน์ เพชรตรง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/3 ม.16 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีอาชีพเป็นแคดดี้อยู่ที่สนามกอล์ฟ มิชชั่นฮิลล์ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ภูเก็ต เสียชีวิต เหตุเกิดที่ริมถนนสายบ้านเมืองใหม่ – ป่าคลอก ใกล้สนามกอล์ฟมิชชั่นฮิลล์ ม.4 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ภูเก็ต

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน สืบสวนจนกระทั่งทราบประเด็นในการลงมือสังหารในครั้งนี้ คือ ความขัดแย้งระหว่างพี่สาวของนายอุดม หนูนะ สามีของน.ส.อมรรัตน์ ซึ่งได้อยู่กินฉันท์สามี ภรรยากับนายอุดม แต่ทางพี่สาวของนายอุดม ไม่พอใจเนื่องจากน.ส.อมรรัตน์เคยมีครอบครัวและบุตรมาแล้ว ประกอบกับนายอุดม ได้ทิ้งภรรยายเก่าและบุตรมาอยู่กินกับน.ส.อมรรัตน์ ประกอบกับก่อนเกิดเหตุนางประทุมเคยโทรศัพท์ไปข่มขู่มารดาของน.ส.อมรรัตน์ ว่าให้มารับน.ส.อมรรัตน์ กลับบ้าน หรือหากไม่มีเงินทางนางประทุมยินดีที่จะออกให้ แต่ถ้าหากพูดไม่รู้เรื่อง ก็ให้มารับศพก็แล้วกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าทีได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ ว่าเป็ยพฤติการณ์ของคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มมือปืนรับจ้าง

เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบถึงผู้จ้างวาน ก็ได้ขอหมายจับเพื่อทำการจับกุมตัวนางประทุม ชุมรักษ์ พี่สาวของนายอุดม สามีของผู้ตาย จากนั้นก็ได้ทำการสอบสวนก็ทราบว่านายไพศาล ปรีชา ซึ่งนางประทุม มีบุญคุณอยู่เป็นผู้ติดต่อนายพงษ์ศักดิ์ บูรณะ มือปืน ซึ่งเป็นเพื่อนกันกัยนายไพศาล ให้มายิงผู้ตาย ในราคา 3 หมื่นบาท พร้อมกันนี้นายไพศาลยังได้จัดหารถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งอาวุธปืนที่ใช้ในการสังหาร โดยมีนายหมาน นามสมมุติ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หลังจากลงมือแล้ว นายพงษ์ศักดิ์ และนายหมาน ก็ได้เดินทางกลับจังหวัดสงขลาทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 ก็ได้เดินทางไปติดตามจับกุมตัวได้ทั้ง 2 คน จากนั้นก็ได้นำตัวสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 4 ก็ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดในคดีนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น