จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“ดิ อัลติเมท วอร์ช แฟร์ฯ” ตั้งเป้ายอดขาย 30 ล.

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 54 ที่บริเวณชั้น1 ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน โอเชี่ยน สาขาจังซีลอน ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒสภาจังหวัดภูเก็ต และประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภาเป็นประธานเปิดงาน “ดิ อัลติเมท วอร์ช แฟร์ แอ็ด โรบินสัน จังซีลอน” ครั้งที่ 3 หรือ “Robinson-Ultimate watch Fair @ Robinson Jung Ceylon” ด้วยการนำนาฬิกากว่า 100 แบรนด์ดัง มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท มานำเสนอให้กับลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมแฟชั่นโชว์นาฬิกาหรู ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Time the begin of Love” จากเหล่าเซเลบริตี้จังหวัดภูเก็ต 5 ท่าน

ทั้งนี้นางสาวนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาโอเซี่ยน จังซีลอน ได้กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาโอเซี่ยน จังซีลอน จึงได้งาน “ดิ อัลติเมท วอร์ช แฟร์ แอ็ด โรบินสัน จังซีลอน” ครั้งที่ 3 หรือ “Robinson-Ultimate watch Fair @ Robinson Jung Ceylon” ขึ้น ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ด้วยการนำนาฬิกากว่า 100 แบรนด์ดัง มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เช่น Frederique Constant, Perrelet, Hemes.greitlling,Oris, Gucci,CK เป็นต้นมานำเสนอ พร้อมโปรโมชั่นลดพิเศษจากเคาน์เตอร์ปกติถึง 50% ลดเพิ่มหรือรับคืนจากบัตรเครดิตสูงสุด 10% ผ่อน 0% นานถึง 10 เดือน โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 30 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

“โรบินสันฯ ได้มุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ ส่งผลให้ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 30% ทั้งนี้เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของภูเก็ตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ทั้งรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก และการเปิดเส้นทางบินตรงจึงทำให้มีนักท่องเที่ยว”

นางสาวนิสา กล่าวด้วยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาโรบินสัน โอเชียน สาขาจังซีลอน มียอดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเติบโตมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย เกาหลี จีน ฮ่องกง และจากประเทศยุโรป รวมแล้วกว่า 53% ส่วนที่เหลืออีก 47% เป็นคนไทย คนท้องถิ่น และ Expat หรือชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในเมืองไทย ทำให้ภาพรวมการซื้อสินค้าเติบโตต่อเนื่องถึง 30% โดยยอดซื้อต่อบิลเฉลี่ยประมาณ 1,100 บาท และคาดว่าตลอดปี 2554 ยอดขายจะเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 10%


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น