จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ระดมสมองอนุรักษ์สวล.และศิลปกรรมท้องถิ่น


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุมโรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาประจำปีทางวิชาการผู้นำหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและศิลปกรรมท้องถิ่น พ.ศ.2554 ซึ่งหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและศิลปกรรมท้องถิ่น จังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ บุคากรและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่ายหน่วยอนุรักษ์ฯ 5 ภาค หัวหน้าและเจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์ฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมี ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติ โอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการเสวนาเรื่อง ศิลปกรรมกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ด้วย
สำหรับการจัดสัมมนาทางวิชาการดังกล่าว เพื่อประชุมชี้แจงนโยบายการดำเนินงานของหน่วยอนุรักษ์ฯ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสรุปรายงานผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2554 และเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยอนุรักษ์ฯ ด้วย
ผศ.ดร.สาวิตร พงศ์วัชร์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ฯ จังหวัดภูเก็ต และประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่ายหน่วยอนุรักษ์ฯ ภาคใต้ กล่าวว่า ด้วยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2527 และวันที่ 28 สิงหาคม 2527 โดยมีหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติศิลปกรรมท้องถิ่น ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น เฉพาะในส่วนภูมิภาค 75 จังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานในท้องถิ่นรวม 5 ภาค โดยมีหน้าที่สนับสนุนประสานงานทางด้านวิชาการ สำรวจ ตรวจสอบ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งธรรมชาติและศิลปกรรมในพื้นที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ทาง สผ.ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยอนุรักษ์ฯ ทั้ง 75 จังหวัด ด้วยการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการดำเนินงานภายใต้แผนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมมาโดยลำดับ
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.สาวิตร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาในส่วนของหน่วยอนุรักษ์ฯจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าได้เข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มเยาวชน ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายในการร่วมกันดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมของแต่ละท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงการนำเสนอปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเพื่อนำไปดำเนินการแก้ไข
จากการทำงานในช่วงที่ผ่านมาปัญหาที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษสำหรับภูเก็ต จะเป็นเรื่องการเติบโตอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนอาคารสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส การขยายอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทรซึ่งไม่สามารถทำได้เนื่องจากความคับแคบ การปลูกสร้างอาคารใหม่บดบังอาคารสถาปัตยกรรมดั้งเดิม การใช้สีทาอาคารที่ไม่สอดคล้อง การตัดไม้ทำลายป่าบนภูเขา เป็นต้น ซึ่งปัญหาต่างๆ ดังกล่าวหน่วยอนุรักษ์ฯ ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เอง ต้องอาศัยหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการ แต่ทั้งหมดนั้นคิดว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ประกอบการด้วย ผศ.ดร.สาวิตร กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น