เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาทำประมงในเขตพื้นที่คุ้มครอง การทำประมงในเขตผ่อนปรนพิเศษและการออกบัตรพิเศษเพื่อประกอบอาชีพประมงของชาวเลในจังหวัดภูเก็ต โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมงจังหวัด ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และตัวแทนชาวเลจำนวน 5 หมู่บ้าน ในจังหวัดภูเก็ตได้แก่ เกาะสิเหร่ ราไวย์ สะปำ แหลมหลาและหินลูกเดียว เข้าร่วม
นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 2143/2554 ลงวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงในเขตพื้นที่คุ้มครองของชาวเลจังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาการเข้าไปประกอบอาชีพ-การทำประมงในเขตพื้นที่หวงห้ามของกรมประมง ตามพระราชบัญญัติการประมง 2490 ตามมาตร 9 ที่มีข้อห้ามไว้ 2 ลักษณะ คือ ห้ามทำประมงในเขตรักษาพืชพันธุ์ ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์ในเขตรักษาพืชพันธุ์ และมีข้อยกเว้นสำหรับข้อ 1-ข้อ 2 คือการได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมประมง เพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์สัตว์น้ำ หากผู้ใดฝ่าฝืน ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตร 62)
สำหรับพื้นที่ที่ทางกรมประมงได้ประกาศให้เป็นเขตรักษาพืชพันธุ์ จังหวัดภูเก็ตมี 4 พื้นที่ คือ 1.บริเวณแหลมพันวา เกาะโหลน เกาะเฮ เกาะแอล ต.วิชิต ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต 2. บริเวณป่าตองตอนเหนือ แหลมดง-แหลมยมดิ่ง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ 3.บริเวณป่าตองตอนใต้ ช่วงที่ 1 ปากคลองปากบาง –แหลมคลองใสรอด ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และ 4 บริเวณป่าตองตอนใต้ ช่วงที่ 2 หาดหัวนอน-แหลมไม้ง้าว ต.ป่าตอง อ.กะทู้ รวมพื้นที่ทั้งหมด 28,825 ไร่ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ห้ามทำประมงของกรมอุทยานแห่งชาติสิรินาถฯ บริเวณตั้งแต่บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว ถึงบริเวณหน้าลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งห้ามนำอุปกรณ์ใดๆ เข้ามาทำการประมงในเขตพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และไม่สามารถที่จะออกบัตรพิเศษอนุญาตให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้าไปทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย โดยทำได้เพียงผ่อนปรนการจับกุมผู้ที่ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ขนาดเล็กที่ไม่ส่งผลกระทบต่อปะการังในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ตัวแทนประมงพื้นบ้านอ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า คิดว่าการจะออกบัตรพิเศษให้แก่ชาวเลไม่สามารถทำได้เนื่องจากผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 29-30 อย่างแน่นอน เพราะคนไทยทุกคนสามารถทำประกอบอาชีพโดยสุจริต ซึ่งการจะมาออกบัตรพิเศษให้แก่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งถือว่าทำไม่ได้ และผิดกฎหมาย หากจะออกบัตรพิเศษในการทำประมงในเขตหวงห้ามนั้นต้องให้กับคนในจังหวัดภูเก็ตทุกกลุ่มรวมทั้งประมงพื้นบ้านด้วย จากที่ได้ติดตามปัญหาของชาวเลที่ประสบอยู่นั้นคิดว่าเกิดมาจากกรณีถูกกลุ่มนายทุน เจ้าของโรงแรม หวงชายหาด-หวงอ่าวมากว่า เพราะปัจจุบันชายหาดที่อยู่บริเวณหน้าโรงแรมต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตมีเจ้าของแทบทุกหาด เมื่อชาวเลเข้าไปแคะหอยติบก็จะถูกไล่ บางครั้งขับเรือเข้าไปใกล้หน้าโรงแรมก็ถูกยิงข่มขู่ และนายทุนบางกลุ่มก็ยังทำร้ายด้วยการตัดสายลมขณะที่ชาวเลดำน้ำจับปลากลางทะเลลึก ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้ชาวเลได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น