จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

“แสนสิริ” ส่ง “ดีคอนโด” ประเดิมตลาด


นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาดแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม โครงการทาวน์เฮาส์ โครงการบ้านแฝด รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ในรูปแบบช้อปเฮาส์และโฮม ออฟฟิศที่ครอบคลุมทุกระดับราคาและครอบคลุมทุกทำเลในกรุงเทพฯ รวมถึงความสำเร็จจากการเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับพรีเมียมในพื้นที่ตากอากาศในทำเลหัวหินมาอย่างยาวนาน
“ล่าสุดบริษัทตัดสินใจขยายขอบเขตการลงทุนสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ ด้วยการนำร่องแบรนด์ดีคอนโด เป็นโครงการแรก ตั้งอยู่ติดถนนวิชิตสงคราม อ.กะทู้ เส้นทางไปป่าตอง บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยอยู่มาก เพราะเป็นจุดศูนย์กลางใกล้กับแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูเก็ต โดยวางกลุ่มเป้าหมายคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยและการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ตหรือป่าตอง”
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ดีคอนโด กะทู้ จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low rise ความสูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวนทั้งสิ้น 556 ยูนิต ประกอบด้วยห้องสตูดิโอ ขนาด 29-30 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 999,000 บาท มูลค่าโครงการรวมประมาณ 560 ล้านบาท ภายในโครงการมีสวนสาธารณะ ห้องฟิสเน็ต สระว่ายน้ำ ระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และเข้าออกด้วยระบบ Key card access โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยซึ่งเป็นคนภูเก็ต และคนต่างจังหวัดภูเก็ตที่เข้ามาประกอบอาชีพและต้องการที่อยู่อาศัยแทนการอยู่บ้านเช่า ซึ่งจากการเปิดตลาดมาระยะหนึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
“ดีคอนโด กะทู้ มีแนวความคิดที่จะลดทอนรูปแบบความเป็นตึกและองค์ประกอบของอาคารที่เป็น Pattern ซ้ำๆ จึงสร้างความน่าสนใจให้กับตัวอาคาร โดยการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาปัตยกรรมกับธรรมชาติแวดล้อม อันเป็นความโดดเด่นเฉพาะของเกาะภูเก็ต จึงทำให้ได้แนวคิดการถ่ายทอดภาพ Phuket Skyline ลงบน facade ของอาคาร เสมือนเป็นแสงเงาของอาคารบ้านเรือนในตัวเมือง ตัดกับท้องฟ้า ประกอบกับลายเส้นที่เคลื่อนไหลไปทั่วอาคาร เปรียบดังภูมิประเทศที่สูงต่ำของภูเขาและทะเล ทำให้ทั้งโครงการสื่อถึงองค์ประกอบความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะภูเก็ตได้เป็นอย่างดี แต่ละยูนิตมีการดีไซน์พื้นที่ห้องให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างลงตัว ด้วยกลยุทธ์ออกแบบในทุกตารางเมตรเพื่อสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย และมีพื้นที่ส่วนพักผ่อน ห้องน้ำ และครัวแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนั้นโครงการยังมอบเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพจากโมเดิร์นฟอร์มด้วย”
อย่างไรก็ตามนายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ด้วยศักยภาพของภูเก็ต ซึ่งความต้องการของตลาดยังมีสูงในกลุ่มคนไทย ทางแสนสิริมีเป้าหมายที่จะเปิดอีกสองแบรนด์ที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านแฝด แบรนด์ฮาบิเทีย ซึ่งมีระดับราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นภายใต้แบรนด์ฮาบิทาวน์ ระดับราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น