จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ค้านการอนุมัติโครงการพัฒนาที่เน้นขนาดใหญ่




เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 ที่บริเวณประตูอิราวดีทางเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาภูเก็ต อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2555หรือ ครม.สัญจร “เครือข่ายประชาชนภาคใต้ ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ครม.สัญจร ภูเก็ต” นำโดยนายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี และนายสุไลมาน บือราเอง พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายฯ จำนวนประมาณ 20 คน ได้นำแผ่นป้ายผ้าขนาดใหญ่เขียนข้อความคัดค้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้มากาง พร้อมอ่านแถลงคัดค้านการอนุมัติโครงการพัฒนาที่เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่


โดยนายวิโชคศักดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ซึ่งระบุว่า ในฐานะเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ไม่เห็นด้วยกับวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือพัฒนาภาคใต้ด้วยโครงการพัฒนาที่เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากมองว่าโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักในอนาคต และเป็นแผนการร่วมกันของนักพัฒนาเศรษฐกิจ บริษัทของนักลงทุนข้ามชาติ และพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งจะทำให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เปลี่ยนโฉมไปเพื่อรองรับ “อุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ” หรือ “อุตสาหกรรมเลื่อนลอย” ซึ่งมีเพียงคนกลุ่มน้อยที่ได้ประโยชน์ ทั้งยังมีการเปลี่ยนพื้นที่เลือนลอยไปเรื่อยๆ ไม่มีความรับผิดชอบ ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ภาคตุวันออก-มาบตาพุด


“แค่ดูเหมือนว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีกลับให้ความสำคัญและรับฟังเสียงจากที่ประชุมคณะกรรมร่วมภาครัฐเอกชนฯ หรือ กรอ. เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มทุนผู้ที่ได้รับประโยชน์เป็นหลัก ทั้งยังมีการเสนอแผนพัฒนาต่างๆ รวมถึงการทำแลนด์บริดจ์ (สงขลา-สตูล) และท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยละเลยขั้นตอนกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และไม่คิดถึงศักยภาพการพัฒนาแบบใหม่ๆ”


ทางเครือข่ายฯ มีความคิดเห็นว่า กลุ่มทุนในภาคเอกชนของแต่ละจังหวัดเป็นเพียงตัวแทนของกลุ่มผู้ร่ำรวยเท่านั้น ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนทั้งหมด ขณะที่ตัวแทนจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีฐานะเป็นเพียงนอมินีหรือตัวแทนของรัฐบาลกลางเท่านั้น ไม่มีสิทธิกล่าวอ้างว่าตนเป็นเสียงของคนท้องถิ่น ขอยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มภาคเอกชน และขอคัดค้านแผนพัฒนาใดๆ ก็ตามที่อาจถูกเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีส่วนร่วมจากคนส่วนใหญ่


เครือข่ายฯ หวังว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้งเสียงส่วนใหญ่ มาจากเสียงของประชาชนฐานราก จะเคารพและเข้าใจหลักการเหล่านี้ และเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ ในท้องถิ่นร่วมกันสร้างสรรค์การพัฒนาในแบบใหม่ๆ ไม่ทำลายผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เพื่อคนส่วนน้อย และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคใต้ได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืนได้

ทั้งนี้ทางเครือข่ายจะติดตามการดำเนินการของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆอย่างใกล้ชิด และขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรม พร้อมย้ำว่า “เส้นทางการพัฒนาภาคใต้ ประชาชนคนท้องถิ่นต้องร่วมกำหนดขึ้นเอง” 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น